เครื่องทดสอบกำลังดันท่อแบบเคลื่อนที่
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
เครื่องทดสอบกำลังดันท่อแบบเคลื่อนที่ ได้ถูกวิจัยและพัฒนาขึ้นเพื่อทดแทนเครื่องทดสอบกำลังดันท่อแบบประจำที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้บริการให้กับหน่วยต่างๆของกองทัพเรือที่อยู่ห่างไกล ในการทดสอบตรวจสอบความแข็งแรงของท่อบรรจุแรงดันสูงประเภทต่างๆที่ใช้ในกองทัพเรือมีความปลอดภัยในการการใช้งานเช่น เครื่องดับเพลิงแบบคาร์บอนไดออกไซด์ และท่ออากาศอัดสำหรับการหายใจ ตามมาตรฐาน National Fire Protection Association (NFPA 10) Standard for Portable Fire Extinguishers 2002 Edition ในการวิจัยใช้ระบบ Hydrostatic test ออกแบบ water Jacket สูง 920 mm เส้นผ่านศูนย์กลาง 335 mm หนา 20 mm ติดล้อที่ฐานล่าง น้ำหนักถังเปล่า 40 kg และ ปั๊มน้ำแรงดันสูงที่ 3,000 psi ผลการทดลองอัตราการขยายตัวถาวรผิดพลาดเพียง 0.1% เมื่อเทียบกับการทดสอบกับท่อมาตรฐาน และผลการทดสอบกับท่อดับเพลิงตัวอย่างขนาด 15 lbs เปรียบเทียบกับผลของเครื่องทดสอบแบบประจำที่ต่างกัน 2% ซึ่งถือว่าเครื่องทดสอบกำลังดันท่อแบบเคลื่อนที่มีมาตรฐานและใช้งานได้จริง
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการโรงเรียนนายเรือ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการโรงเรียนนายเรือ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของโรงเรียนนายเรือ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากโรงเรียนนายเรือก่อนเท่านั้น
References
สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม. มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์กระทรวงอุตสาหกรรม, 2551.
อนันต์ วงศ์กระจ่าง. ออกแบบชิ้นส่วนเครื่องจักรกล. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์, 2533.
Reza Javaherdashti, and Farzaneh Akvan, CRC Press 2018. Hydrostatic Testing, Corrosion, and Microbiologically Influenced Corrosion. 1st Edition. pp 119-178
Wiroon Tanthapanichakoon . Kindle Edition. March 14, 2015.One-Stop Guide for Pressure and Leak Tests with Hydrostatic and Pneumatic Testing, 1st Edition. pp 102-145