การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ เรื่องบทประยุกต์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ใช้การสอนระหว่างการเรียนแบบร่วมมือ ด้วยแบบฝึกทักษะกับวิธีสอนแบบปกติ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์เรื่องบทประยุกต์ประกอบกับการสอนแบบร่วมมือให้มีประสิทธิผลและมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องบทประยุกต์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ใช้การสอนระหว่างการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยแบบฝึกทักษะกับวิธีการสอนแบบปกติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหนองเงินฮ้อย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 60 คนซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ 2) แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์เรื่องบทประยุกต์ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานการทดสอบความแปรปรวน ค่าประสิทธิภาพและการทดสอบค่าทีแบบอิสระ ผลการวิจัยพบว่า 1) แบบฝึกทักษะเรื่องบทประยุกต์ มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.71/82.17 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ .7214 คิดเป็นร้อยละ 72.14 2) นักเรียนที่เรียนแบบร่วมมือด้วยแบบฝึกทักษะ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องบทประยุกต์สูงกว่านักเรียนที่เรียนโดยใช้วิธีสอนแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
The Comparison of Learning Achievement of Prathomsuksa 6 Students on Application Using by Teaching between Cooperative Learning together with Skills Exercises and Traditional Teaching Method
The research aimed to 1) develop the mathematics skills exercises on application with Cooperative Learning technique to effectiveness and achieve the efficiency index of 80/80. 2) to compare of learning achievement of Prathomsuksa Sixth Students on application using by teaching between Cooperative Learning together with skills exercises and traditional teaching method. The samples used in the research were sixty grade six students of Ban NongNgoen Hoy School in the first semester of the academic year 2015. They were derived by means of a cluster random sampling. The research instruments were 1) Cooperative Learning plan 2) mathematics skill exercises on Application 3) achievement test mathematics. Statistics used in data analysis were percentage, mean, standard deviation, variance, efficiency and independent t-test. The research findings were as follows. 1) The skill exercises in the study had an efficiency was equivalent to 85.71/82.17. It was higher with the set criterion and its effectiveness index was equivalent to 0.7214or 72.14%. 2) The students who learned by Cooperative Learning together with skills exercises had a higher learning achievement than those who learned by a traditional teaching method at a statistical level of .01 significanceArticle Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารฯ ท้ังในรูปแบบของรูปเล่มและอิเล็กทรอนิกส์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารฯ