การใช้รูปแบบห้องเรียนสถาปัตยกรรมชุมชนเพื่อสร้างสถานการณ์จำลองในการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนผู้มีรายได้น้อยในเมือง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร

Main Article Content

มณฑล จันทร์แจ่มใส

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสถานการณ์จำลอง ทางเลือกในการพัฒนาที่อยู่อาศัยของชุมชนผู้มีรายได้น้อยในเขตยานนาวาโดยใช้รูปแบบห้องเรียนสถาปัตยกรรมชุมชน เพื่อศึกษารูปแบบการสร้างความร่วมมือของสถาบันการศึกษากับภาคีเครือข่ายในการพัฒนาชุมชน และเพื่อสร้างทักษะให้กับนักศึกษาสาขาสถาปัตยกรรมชั้นปีที่ 4 ในการแก้ไขปัญหาโดยใช้สถานการณ์จริง ระเบียบวิธีการวิจัยครั้งนี้ได้ใช้กระบวนการออกแบบทางสถาปัตยกรรมเพื่อสร้างทางเลือกในการพัฒนา โดยการบูรณาการกับการเรียนการสอนสถาปัตยกรรม พื้นที่ศึกษา คือ ชุมชนเชื้อเพลิงพัฒนา เขตยานนาวา ปัญหาสำคัญคือ การอยู่อาศัยอย่างแออัดและขาดสุขภาวะของชุมชน ผู้มีรายได้น้อยที่อยู่อาศัยต่อเนื่องกันมายาวนาน ผลการวิจัยพบว่า สามารถสร้างสถานการณ์จำลองรูปแบบในการพัฒนาได้เป็น 3 แนวทาง ประกอบด้วย 1) รูปแบบที่อยู่อาศัยแนวราบ 2) รูปแบบอาคารอยู่อาศัยรวมสูง 6-9 ชั้น และ 3) รูปแบบอาคารอยู่อาศัยรวมขนาดใหญ่พิเศษสูง 36 ชั้น และจากการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของชุมชน ส่วนใหญ่ต้องการรูปแบบที่อยู่อาศัยแนวราบในพื้นที่เดิม รองลงมา ยังไม่แสดงความคิดเห็น เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานะทางการเงินของตนเอง ส่วนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน พบว่า ส่วนใหญ่ได้เรียนรู้ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น รองลงมาคือ ทักษะการสื่อสารกับชุมชนและ การได้ใช้ทักษะด้านการออกแบบและวิชาชีพเพื่อแก้ปัญหาให้ชุมชน นอกจากนั้น การเรียนรู้จากสถานการณ์จริงทำให้ได้เข้าใจปัญหาชุมชน รวมทั้งได้รู้ถึงศักยภาพของตนเอง และมีความภาคภูมิใจที่ได้ใช้ความรู้ช่วยเหลือผู้อื่นในสังคม

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

กรมธนารักษ์. (2564). การใช้ที่ราชพัสดุทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม. สืบค้น 2 พฤษภาคม 2564, จาก

https://www.treasury.go.th/th/management-of-the-palace/view/MDY1cDBzNnM0NHIyb3Ezc3E2NnEyNDk0cDRyOTQzcjQ0NDI=

นรินทร์ชัย พัฒนพงศา. (2547). การมีส่วนร่วม : หลักการพื้นฐาน เทคนิค และกรณีตัวอย่าง (พิมพ์ครั้งที่ 2). สิริลักษณ์การพิมพ์.

มณฑล จันทร์แจ่มใส. (2558). ห้องเรียนสถาปัตยกรรมชุมชน การจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน กรณีศึกษา:การบูรณาการการจัดการเรียนรู้วิชาออกแบบสถาปัตยกรรมกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย (โครงการบ้านมั่นคง ชุมชนพระราม 9 บ่อ 3). วารสารวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่, 7(3), 106-117.

สำนักข่าวออนไลน์RYT9. (2564) กรมธนารักษ์สนับสนุนที่ราชพัสดุสร้างบ้านมั่นคงแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยตามนโยบายของรัฐบาลและสอดคล้องกับแนวทางUN. สืบค้น 14 มิถุนายน 2564, จาก https://www.ryt9.com/s/prg/724471

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560–2579. สืบค้น 14 มิถุนายน 2564, จาก http://www.onec.go.th/index.php/book/BookView/1540

สุมล ยางสูง และเรวดี อุลิต. (2558). โครงการบ้านมั่งคง การพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยองค์กรชุมชนและท้องถิ่น. สำนักงานบ้านมั่นคง สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน). https://ref.codi.or.th/attachments/article/28/Project_Guide%20_111158.pdf

Chevalier, J. M., & Buckles, D. J. (2013) Participatory Action Research: Theory and Methods for Engaged Inquiry, UK: Routledge.

Cuban, S., & Anderson, J. B. (2007). Where's the justice in service-learning? Institutionalizing service-learning from a social justice perspective at a Jesuit university. Equity & Excellence in Education, 40 (2), 144-155.

Ibrahim, M. (2010). The use of community based learning in educating college students in Midwestern USA. Procedia Social and Behavioral Sciences, 2 (2), 392-396

Melaville, A., Berg, A. C., & Blank, M. J. (2006). Community-based learning : Engaging students for success and citizenship. Partnerships/Community, 40. Retrieved on June 15, 2018, from http://digitalcommons.unomaha.edu/slcepartnerships/40

Reason, P., & Bradbury, H. (2008) (eds) The Sage Handbook of Action Research: Participative Inquiry and Practice. CA: Sage.

Saavedra, A. R., & Opfer, V. D. (2012). Teaching and learning 21st century skills : Lessons from the learning sciences. Retrieved on June 15, 2018, from https://asiasociety.org/education/teaching-and-learning-21st-century-skills

Schleicher, A. (Ed.). (2012). Preparing teachers and developing school leaders for the 21st century : lessons from around the world. Retrieved on June 15, 2018, from https://www.oecd.org/site/eduistp2012/49850576.pdf