ผลของระดับความหนาของวัสดุปลูกต่อการเจริญเติบโตของผักสลัดกรีนคอสอินทรีย์ที่ปลูกแบบแปลงยกพื้นในพื้นที่เกษตรกร
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของระดับความหนาของวัสดุปลูกบนแปลงแบบยกพื้นต่อการเจริญเติบโตของผักสลัดกรีนคอสที่ปลูกในพื้นที่ของเกษตรกร โดยใช้วัสดุปลูกอินทรีย์ที่มีส่วนผสมของดินร่วน มูลหมู และกากตะกอนอ้อย อัตราส่วน 1:2:3 โดยปริมาตร วางแผนการทดลองแบบสุ่มในบล็อกสมบูรณ์ ประกอบด้วย 3 กรรมวิธี คือ ระดับความหนาของวัสดุปลูก 3 ระดับ ได้แก่ 20, 25 และ 30 เซนติเมตร โดยมีบล็อกคือพื้นที่ของเกษตรกรจำนวน 4 ราย บันทึกข้อมูลการเจริญเติบโตและผลผลิต ด้านความสูง ลักษณะใบ ความเขียวใบ ความกว้างทรงพุ่ม และน้ำหนักผลผลิตสดและแห้ง นำข้อมูลมาวิเคราะห์ความแปรปรวน (ANOVA) และเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยด้วยวิธี Duncan’s multiple range test (DMRT) ผลการศึกษาพบว่า เมื่อผักมีอายุ 35 วัน ความหนาของวัสดุปลูกที่ระดับ 20 เซนติเมตร มีผลทำให้ผักสลัดกรีนคอสมีความกว้างทรงพุ่มมากที่สุด แตกต่างจากความหนาระดับอื่นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนความหนาระดับอื่น ๆ ไม่มีผลต่อการเจริญเติบโตของผักสลัดกรีนคอสทางสถิติ อย่างไรก็ตาม พื้นที่ปลูกของเกษตรกรแต่ละรายมีผลต่อการเจริญเติบโตของผักสลัดกรีนคอสที่แตกต่างกัน จากผลการศึกษาผู้วิจัยแนะนำให้ผู้ผลิตผักอินทรีย์ด้วยเทคนิคนี้ใช้วัสดุปลูกบนแปลงปลูกที่ระดับความหนา 20 เซนติเมตร จะให้ผลิตที่ดี มีคุณภาพ ประหยัดต้นทุนและส่งผลต่ออายุการใช้งานของโครงสร้างแปลงแบบยกพื้นให้ยาวนานขึ้นด้วย
Downloads
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กรมพัฒนาที่ดิน. (2560). คู่มือการรับรองเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรม.
เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช. (2563). ข่าวร้ายปลายปี 2563 ไทยแพนพบผักผลไม้ 58.7% พบสารพิษ ตกค้างบริโภคเกินมาตรฐาน. เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช. https://thaipan.org/highlights/
เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช. (2564). ปริมาณการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชของไทยอยู่อันดับไหนของโลก. เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช. https://thaipan.org/highlights/2426
ชำนาญ ขวัญสกุล. (2565). การวิจัยและพัฒนาแปลงผักยกพื้นเพื่อการผลิตผักคุณภาพ. วารสารเกษตรศาสตร์และเทคโนโลยี, 3(1), 60–74. https://li01.tci-thaijo.org/index.php/atj/article/view/253875
ธงชัย มาลา (2546). ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพ : เทคนิคการผลิตและการใช้ประโยชน์. สำนักพิมพ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
พัฒนา สมนิยาม, วิมลฉัตร สมนิยาม, วราภรณ์ ภู่ภักดีพันธุ์, ภูมิพัฒน์ พัทดิพันธ์ปรีดา, และปริญญา บัญญัติ. (2567). การศึกษาศักยภาพของวัสดุท้องถิ่นเพื่อการผลิตผักอินทรีย์บางชนิดในรูปแบบแปลงยกพื้นสำหรับเกษตรกรกลุ่มพีจีเอสจังหวัดอุตรดิตถ์. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์.
ภูมิศักดิ์ อินทนนท์. (2561). การผลิตและการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพปั้นเม็ดประสิทธิภาพสูง. คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร.
มุกดา สุขสวัสดิ์. (2544). ความอุดมสมบูรณ์ของดิน. โอ.เอส. พริ้นติ้งเอ้าส์.
วันปิติ ธรรมศรี. (2564). ผลกระทบทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากการใช้สารเคมีทางการเกษตรของเกษตรกรไทย. วารสารเกษตรพระจอมเกล้า, 39(4), 329–336. https://li01.tci-thaijo.org/index.php/agritechjournal/article/view/249179/173272
สามารถ ใจเตี้ย, สิวลี รัตนปัญญา, จันจิราภรณ์ สท้านไตรภพ, และฉัตรศิริ วิภาวิน. (2566). การพัฒนาวัสดุปลูกพืชจากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเชิงการค้า. วารสารวิจัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย, 15(2), 439-450. https://li01.tci-thaijo.org/index.php/rmutsvrj/article/view/249370/176737
อุดมศักดิ์ สาริบุตร. (2549). เทคโนโลยีผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม. โอเดียนสโตร์.
Sabeh, N. (2020). Chapter 7 - Rooftop plant production systems in urban areas. In T. Kozai, G. Niu, M, Takagaki (Eds.), Plant Factory (2nd ed., pp.129-135). Academic Press.
Sharma, A., (2021). Raised bed cultivation: A regenerative planting technology to stimulate vegetable production. Gri meet, 1(11), 1–13.
Sharma, R., Bakshi, P., Kumar, R. M., & Manmohan, L. (2023). Effect of growing media on fruit crops: a review. The Pharma Innovation Journal, 12(1), 1364–1369.
Singh, S., Singh, D. R., Velmurugan, A., Jaisankar, I., & Swarnam, T. P. (2008). Coping with climatic uncertainties through improved production technologies in tropical island conditions. In C. R. Elevitch (Ed.), Biodiversity and Climate Change Adaptation in Tropical Islands (pp. 623–666). Academic Press. https://doi.org/10.1016/B978-0-12-813064-3.00023-5
