เรียนรู้เเบบจุลภาคด้วยวีดิทัศน์ปฏิสัมพันธ์ผสานการเรียนรู้แบบสาธิตเพื่อเสริมสร้างทักษะการเล่นกีฬา
DOI:
https://doi.org/10.55003/JIE.24308คำสำคัญ:
การจัดการเรียนรู้แบบจุลภาค, การจัดการเรียนรู้แบบสาธิต, วีดิทัศน์ปฏิสัมพันธ์, ทักษะการเล่นกีฬาบทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการศึกษาการเสริมสร้างทักษะการเล่นกีฬาโดยใช้ประโยชน์จากการจัดการเรียนรู้แบบจุลภาคด้วยวีดิทัศน์ปฏิสัมพันธ์ผสานการจัดการเรียนรู้แบบสาธิตเพื่อเสริมสร้างทักษะการเล่นกีฬา ประชากรกลุ่มตัวอย่าง ประชากร นักเรียนโรงเรียนวิสุทธิกษัตรี สมุทรปราการระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 480 คน กลุ่มตัวอย่าง นักเรียนโรงเรียนวิสุทธิกษัตรี สมุทรปราการระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 25 คน ได้มาด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม
(Cluster random sampling) ผ่านแบบทดสอบการวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน คะแนนความแตกต่างก่อนและหลังเรียน และใช้ Dependent sample t-test ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการสังเคราะห์กระบวนการเรียนรู้แบบจุลภาคด้วยวีดิทัศน์ปฏิสัมพันธ์ผสานการเรียนรู้แบบสาธิตเพื่อเสริมสร้างทักษะการเล่นกีฬาทั้งหมด 6 ขั้นตอน 2) ผลการออกแบบการเรียนรู้แบบจุลภาคด้วยวีดิทัศน์ปฏิสัมพันธ์ผสานการเรียนรู้แบบสาธิต เพื่อเสริมสร้างทักษะการเล่นกีฬา อยู่ในระดับมากที่สุด 3) ผลการพัฒนาระบบการเรียนรู้แบบจุลภาคด้วยวีดิทัศน์ปฏิสัมพันธ์ผสานการเรียนรู้แบบสาธิตเพื่อเสริมสร้างทักษะการเล่นกีฬา อยู่ในระดับมากที่สุด 4) ผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้แบบจุลภาคด้วยวีดิทัศน์ปฏิสัมพันธ์ผสานการเรียนรู้แบบสาธิตเพื่อเสริมสร้างทักษะการเล่นกีฬาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 5) ผลประเมินทักษะการเล่นกีฬาของผู้เรียนหลังการใช้ระบบการเรียนรู้แบบจุลภาคด้วย วีดิทัศน์ปฏิสัมพันธ์ผสานการเรียนรู้แบบสาธิตเพื่อเสริมสร้างทักษะการเล่นกีฬา อยู่ในระดับดีมาก
เอกสารอ้างอิง
Chanudom, P., Krahomvong, R., & Kochakornjarupong, D. (2019). The Results of Instruction Model Using the Demonstration Method of Algorithm on Practice Skills and Learning Achievement of Secondary Grade 4 Students. Thaksin University Journal of Education, 19(1), 88–94. January–June. (in Thai)
Insa-ard, S. (2018). A Design of E-Learning Lessons to Enhance Advance Thinking Skill for Undergraduate students. C-education, 9(3), 906–907. September–December. (in Thai)
Koboon, W. (2018). The Development of Learning Management using Skill Sets to Promote Basic Futsal for Mathayom 1. Journal of Educational Technology and Communications Faculty of Education Mahasarakham University, 1(3), 68-70, September–December.
(in Thai)
Office of the Education Council Secretariat. (2017). Annual report 2017 (1st ed.). Grand Point Co., Ltd. (in Thai)
Panich, V. (2012). Research and learning in the 21st century. Sodsri-Saritwong Foundation, from
https://www.scbfoundation.com. (in Thai)
Piyapimolsit, C. (2016). The use of IBM SPSS Statistics for statistical data analysis. Retrieved March 29, 2025, from https://sornorpoom.files.wordpress.com. (in Thai)
Sriurai, W., & Bunteong, A. (2019). The Model of Interaction Support System Development in Classroom for the 21st Century Active Learning. Ubon Ratchathani University Journal of Science and Technology, 21(1), 136–137. January–April. (in Thai)
Khammani, T. (2013). The science of teaching: Knowledge for effective learning process management (17th ed.). Bangkok: Chulalongkorn University.
Moolkam, S., & Moolkam, O. (2009). 21 learning management methods for developing knowledge and thinking skills. Bangkok: Phappim.
Sriwanna, S., & Puttasem, D. (2022). A model of micro-learning for developing communication skills of Mathayomsuksa 5 students under the Secondary Educational Service Area Office, Lopburi. Journal of Basic Education Research, 2(2), July–December 2022.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
"ข้อคิดเห็น เนื้อหา รวมทั้งการใช้ภาษาในบทความถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน"
