การพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้ตัวแทนความคิดทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
คำสำคัญ:
การพัฒนา, การจัดการเรียนรู้, ตัวแทนความคิดทางวิทยาศาสตร์, ประสิทธิภาพ, ปริมาณสัมพันธ์บทคัดย่อ
งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้ตัวแทนความคิดทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ E1/E2 ไม่น้อยกว่า 75/75 โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 27 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ตัวแทนความคิดทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ประกอบด้วยเนื้อหา 5 เรื่อง ได้แก่ กฎทรงมวล กฎสัดส่วนคงที่ ปริมาตรของแก๊สในปฏิกิริยาเคมี ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณของสารในสมการเคมี และสารกำหนดปริมาณ ส่วนเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ได้แก่ ใบกิจกรรม และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์ จากผลการวิจัยพบว่าการจัดการเรียนรู้โดยใช้ตัวแทนความคิดทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์ มีค่าE1/E2 เท่ากับ 91.97/85.83
ผลการวิจัยสามารถสรุปได้ว่า การจัดการเรียนรู้โดยใช้ตัวแทนความคิดทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย มีค่าประสิทธิภาพไม่น้อยกว่า 75/75 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในสมมติฐาน
เอกสารอ้างอิง
[2] Boujaude, S. and Barakat, H. 2000. Secondary School Students’ Difficulties in Stoichiometry. School Science Review, 81(296), p. 91-98.
[3] Huddle, P. A. and Pillay, A. E. 1996. An In-Depth of Misconceptions in Stoichiometry and Chemical Equilibrium at a South African University. Journal of Research in Science Teaching, 33(1), p. 65-77.
[4] Ozmen, H. and Ayas, A. 2003. Students’ Difficulties in Understanding of The Conservation of Matter in Open and Closed-System Chemical Reactions. Chemistry Education Research and Practice, 4(3), p. 279-290.
[5] Staver, J. R. and Lumpe, A. T. 1995. Two Investigations of Students’ Understanding of The Mole Concept and Its Use in Problem Solving. Journal of Research in Science Teaching, 32, p. 177-193.
[6] Williamson, V. M. and Abraham, M. R. 1995. The Effects of Computer Animation on The particulate Mental Models of College Chemistry Students. Journal of Research in Science Teaching, 32(5), p. 521-534.
[7] Wu, H. K. And Puntambekar, S. 2012. Pedagogical Affordances of Multiple External Representations in Scientific Processes. Journal of Science Education and Technology, 21(6), p. 754-767.
[8] Gilbert, J. K. and Treagust, D. F. 2009. Multiple Representations in Chemical Education, Dordrecht: Springer.
[9] Sunyono, L., Yuanita, M. and Ibrahim. 2015. Supporting Students in Learning with Multiple Representation to Improve Student Mental Models on Atomic Structure. Science Education International, 26(2), p. 104-125.
[10] Trummanam, S., Mano, K. and Supavarasuwat, P. 2017. The Development of a STEM Learning Management System on Sources of Solar Energy and Its Application for The Learning Area of Careers and Technology for Mattayom Suksa 3 Students. Journal of Industrial Education, 16(3), p. 38-44.
[11] Boonlert, S. and Kuno, M. 2014. Development of a Virtual Laboratory for Acid-base Solution for Mathayomsuksa I Students. Journal of Education Graduate Studies Research, 8(2), p. 199-207.
[12] Whitney, D. R. and Sabers, D. L. 1970. Improving Essay Examinations III: Use of Item Analysis, Lowa: University of Lowa.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
"ข้อคิดเห็น เนื้อหา รวมทั้งการใช้ภาษาในบทความถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน"
