ความต้องการการใช้ภาษาอังกฤษของนักเรียนการท่องเที่ยว วิทยาลัยสยามบริหารธุรกิจ นนทบุรี

Article Sidebar

PDF
เผยแพร่แล้ว: ธ.ค. 31, 2014
คำสำคัญ:
English Academic Purpose Tourism English Language Needs

Main Article Content

Orawan Miliang
Department of Applied Arts, Faculty of Industrial Education, King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang
Pattaraporn Thampradit
Department of Applied Arts, Faculty of Industrial Education, King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีจุดประสงค์เพื่อสำรวจความต้องการในการใช้ภาษาอังกฤษของนักเรียนสาขาการท่องเที่ยว วิทยาลัยสยามบริหารธุรกิจ นนทบุรี โดยสำรวจความต้องการทักษะภาษาอังกฤษและเนื้อหาของแต่ละทักษะที่นักเรียนสาขาการท่องเที่ยวต้องการใช้สำหรับการเรียนในห้องเรียน รวมทั้งความต้องการในการจัดหลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยว


กลุ่มตัวอย่างสำหรับงานวิจัยครั้งนี้ มีจำนวน 204 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามจำนวน 3 ชุด ประกอบด้วยนักเรียนสาขาการท่องเที่ยว 120 คน อาจารย์ผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยว 50 คน และผู้บริหารวิทยาลัยสยามบริหารธุรกิจ นนทบุรี 34 คน ข้อมูลที่รวบรวมได้ถูกนำไปวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อแสดงค่าร้อยละ การแจกแจงความถี่ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน


ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนการท่องเที่ยวและผู้บริหารให้ความสำคัญแก่ทักษะการพูดมากที่สุดในห้องเรียน แต่อาจารย์สอนภาษาอังกฤษต้องการสอนทักษะการฟังมากที่สุดในห้องเรียน ผลที่ได้จากการศึกษาในครั้งนี้อาจสามารถนำมาใช้เป็นแนวทางในการจัดหลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อตอบสนองความต้องการของนักเรียนการท่องเที่ยวได้

Article Details

How to Cite
Miliang, O., & Thampradit, P. (2014). ความต้องการการใช้ภาษาอังกฤษของนักเรียนการท่องเที่ยว วิทยาลัยสยามบริหารธุรกิจ นนทบุรี. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม, 13(3), 173–180. สืบค้น จาก https://ph01.tci-thaijo.org/index.php/JIE/article/view/127190
ฉบับ
ปีที่ 13 ฉบับที่ 3 (2014): กันยายน - ธันวาคม 2557
บท
บทความวิจัย

"ข้อคิดเห็น เนื้อหา รวมทั้งการใช้ภาษาในบทความถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน"

References

[1] TAT Annual Report. 2010. Bangkok: TourismAuthority of Thailand.

[2] Korhonen, K. 2004. “Develop Intercultural Competence as Part of Professional Qualifications.” Journal of Intercultural of Communication. 7, 1-8.

[3] Jamieson, S. “Likert Scales” How to Use the Them. 38(2004), 1217-1218.

[4] Basterkmen, H. 2003. “Specificity and ESP Course Design.” RELC. 34(1), 48-63.

[5] Byram, M. 2000. “Assessing Intercultural Competence in the Language Teaching.”Sprogforum. 18(6), 8-13.

[6] Bachman, L. 1982. “The Construct Validation of some components of Communication Proficiency.” TESOL Quarterly. 16(4), 451.

[7] Yaowong, A. 2012. “Teaching and Learning in A Virtual Classroom for Higher Education Level.” Journal of Industrial Education, King Monkut’s Institute of Technology Ladkrabang. 11(1), 75-81.

[8] Richards, C. 1985. The Context of Language Teaching. Cambridge:Cambridge University Press.

[9] Shohamy, E. 2000. Second Language Research Methods. 5 th Ed. Hong Kong: Oxford University Press.