การศึกษาพฤติกรรมและความต้องการการบริโภคผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ ของผู้บริโภคในเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาลักษณะด้านประชากรศาสตร์ และ 2) เพื่อศึกษาถึงปัจจัย ที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการบริโภคผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้บริโภคในเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร จำนวน 435 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบสะดวก (Convenience sampling) ใช้แบบสอบถามในการรวบรวมข้อมูล  วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่  ค่าร้อยละ  ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ t-test และ One-way Analysis of variance  และใช้แบบสัมภาษณ์กับกลุ่มผู้บริโภคซึ่งไม่เป็นผู้ที่เคยตอบแบบสอบถาม จำนวน  40  คน จากนั้นนำมาถอดคำสัมภาษณ์ จำแนกถ้อยคำ แล้วนำมาตีความสร้างข้อสรุปแบบความเรียง

ผลการวิจัยพบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (ร้อยละ 61.61) มีอายุ 41-50 ปี (ร้อยละ 40.23) จบการศึกษาปริญญาตรี (ร้อยละ 60.92) มีรายได้ต่อเดือน ต่ำกว่าหรือเท่ากับ 10,000 บาท (ร้อยละ 37.01) และเป็นพนักงานหรือลูกจ้างบริษัทเอกชนมากที่สุด (ร้อยละ 45.52) ซึ่งผู้บริโภคมีความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ภาพรวมอยู่ในระดับมาก  (= 3.77, S.D.= 0.52 ) เมื่อพิจารณาตามปัจจัยส่วนประสมการตลาด พบว่า ต้องการมากที่สุดคือด้านผลิตภัณฑ์ (= 3.94, S.D.= 0.56 )  รองลงมาด้านราคา (= 3.77, S.D.= 0.60 ) ด้านสถานที่และช่องทางการจัดจำหน่าย  (= 3.71, S.D.= 0.67 )  และต้องการน้อยที่สุดคือ ด้านการส่งเสริมการตลาด (= 3.67, S.D.= 0.65 ) และผลการเปรียบเทียบลักษณะส่วนบุคคลกับพฤติกรรมการบริโภคผลิตภัณฑ์ตามปัจจัยส่วนประสมการตลาด พบว่าปัจจัยส่วนบุคคลในด้าน เพศ  อายุ  สถานภาพ และระดับการศึกษาไม่ส่งผลต่อความต้องการของผู้บริโภค  แต่ปัจจัยในด้านอาชีพ และรายได้ต่อเดือนส่งผลต่อความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งข้อมูลจากการสัมภาษณ์พบว่า ผลิตภัณฑ์ที่จะวางขายใน สจล. และในเขตลาดกระบัง ควรเป็นผลิตภัณฑ์พืชผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ โดยมีปริมาณสินค้าไม่ต้องมากแต่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะจะทำให้สินค้าสดใหม่อยู่เสมอ และควรบรรจุด้วยบรรจุภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น ใบตอง  กระดาษรักษ์โลก และราคาไม่สูงกว่าท้องตลาดจนเกินไป