แนวทางจัดการสภาวะน่าสบายเชิงอุณหภาพในพื้นที่ปรับอากาศ เพื่อการประหยัดพลังงาน กรณีศึกษา: อาคารบรรณสาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
คำสำคัญ:
สภาวะน่าสบาย, อาคาร-การอนุรักษ์พลังงาน, ระบบปรับอากาศด้วยเครื่องปรับอากาศบทคัดย่อ
บทความนี้ศึกษาและรวบรวมข้อมูลด้านอุณหภาพในพื้นที่ปรับอากาศ ในอาคารบรรณสาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ซึ่งเป็นอาคารคอนกรีต พื้นที่ใช้สอยในตัวอาคาร 6,500 ตารางเมตร มีเครื่องเป่าลมเย็น จำนวน 32 ชุด คิดเป็น 3,618,000 Btu/h. มีการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ย 113,354 kWh/เดือน การศึกษาได้ทาการตรวจวัดและเก็บข้อมูลวันที่ 4-15 มีนาคม2562 ช่วงเวลา 10.00 น.- 15.00 น. อาทิ ตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจวัดความเร็วลม ตรวจวัดความชื้น พบว่า พื้นที่ให้บริการ อาคารบรรณสารฯ มีค่าเฉลี่ยอุณหภูมิอยู่ที่ 24.18˚C ความชื้นที่ 35.75% ความเร็วลม 0.46 m/s โดยเมื่อนาค่าที่ได้ระบุลงใน CBE Thermal Comfort Tool (ASHRAE Standard 55-2017) เพื่อหาค่า PMV พบว่าในพื้นที่ให้บริการ ของอาคารบรรณสารสภาพอากาศค่อนข้างเย็น-หนาว ซึ่งไม่ตรงกับขอบเขตภาวะความสบายของมาตรฐาน ASHRAE Standard 55-2017 ต้องปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้น 2˚C เพื่อจะตรงกับขอบเขตภาวะความสบายของมาตรฐาน ASHRAE Standard 55-2017 และยังสามารถลดการใช้พลังงานลงได้อีก 20%ของปริมาณการใช้พลังงานเฉลี่ยเครื่องปรับอากาศจากเดิม
References
Climate center Bureau of Meteorological Development(2559).Generalweathersummary2016. Retrieved January 20, 2017 from https://www.tmd.go.th/climate/climate.php?FileID=5.
ASHRAE. (1992). ANSI/ASHRAEStandard 55-1992. Atlanta: Author.
WanTani Panprasit.(2006).Ventilation in industrial plants. Bangkok Thammasan Printingfactory Phra Nakhon District
Khedari,J.,Yamtraipat,N.,Pratintong,N.,& Hirunlabh,J.Thailand Ventilation Comfort chart.Energy and Buildings, 2000
Fanger PO.1972. Thermal comfort analysis and application in environmental engineering. McGraw-Hill, NewYork, p. 244.
Surat Atthariyakul. 2007. “Effects of specific wind speed on comfort and energy saving in air-conditioned rooms” KKU Engineering, Year 34, Issue No. 1 :49-58
https://www.e-report.energy.go.th /kpi59m_files /PDF_EUIBOOK2559.pdf
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว