การศึกษาการอบแห้งใบกระท่อมด้วยวิธีฟูลอิดไดซ์เบด
คำสำคัญ:
ใบกระท่อม, การอบแห้ง, เครื่องฟลูอิดไดซ์เบด, ไมทราไจนีนบทคัดย่อ
ใบกระท่อมเป็นพืชที่ใช้รักษาอาการป่วยติดเชื้อในลำไส้ ท้องเสีย ปวดกล้ามเนื้อ และลดไข้ ปี 2564 รัฐบาลยกเลิกข้อห้ามการใช้กระท่อมในอาหาร ทำให้สามารถใช้ในอาหารได้ ปัจจุบันมีการแปรรูปเป็นใบแห้งและผง ใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เครื่องดื่มผสมกระท่อมและชาพร้อมชงงานวิจัยนี้ศึกษาการอบแห้งใบกระท่อมก้านใบสีเขียว (พันธุ์แตงกวา) โดยใช้เครื่องอบแห้งแบบฟลูอิไดซ์เบด ซึ่งประกอบด้วยพัดลมโบลเวอร์เป่าลมร้อนผ่านเครื่องทำความร้อนเข้าสู่ถังอบแห้งด้วยอัตราการไหล 38 ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที (CFM) ใบกระท่อมที่ใช้ปริมาณ 1 กิโลกรัม (kg) 2 kg และ 3 kg ตัดแต่งเป็นชิ้นขนาด 3-5 เซนติเมตร (cm) ทำการทดลองที่อุณหภูมิ 40°C 50°C 60°C และ 70°C โดยบันทึกค่าความชื้นที่ลดลงทุก 10 นาที เพื่อค้นหาผลกระทบของอุณหภูมิและน้ำหนักต่ออัตราส่วนความชื้น การสิ้นเปลืองพลังงานจำเพาะ และปริมาณสารไมทราไจนีน ผลการวิจัย พบว่า ใบกระท่อมมีการลดความชื้นได้รวดเร็วตามอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น และระยะเวลาของการอบแห้งจะเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักของใบกระท่อมที่ใช้อบแห้ง ความสิ้นเปลืองพลังงานจำเพาะลดลงสูงสุดร้อยละ 9.10 ตามอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น ปริมาณสารไมทราไจนีนในใบกระท่อมจะลดลงแบบเชิงเส้นตามการเพิ่มอุณหภูมิอบแห้ง โดยที่อุณหภูมิ 70°C จะลดลงต่ำสุดที่ร้อยละ 25.93 จากข้อมูลผลการทดลองเมื่อคำนึงถึงการใช้พลังงานและเวลาการอบแห้งที่อุณหภูมิ 60°C เหมาะสมกับการแห้งในการศึกษาครั้งนี้ แต่หากคำนึงถึงปริมาณสารไมทราไจนีนมากที่สุดควรทำการอบแห้งที่อุณหภูมิ 40°C แนวทางการใช้ประโยชน์จากผลการวิจัยนี้สามารถใช้พัฒนาอาหารและเครื่องดื่มจากใบกระท่อม เพิ่มมูลค่าผลผลิตเกษตร แนะนำอุณหภูมิอบแห้งที่เหมาะสมเพื่อลดพลังงาน และสนับสนุนการผลิตสมุนไพรแผนไทยที่ควบคุมสารออกฤทธิ์ได้
เอกสารอ้างอิง
กวิน เลิศเลาห์, ฐณพล เวียงทอง, ประเสริฐ วิโรจน์ชีวัน, ณทพร จินดาประเสริฐ, และปฎิภาณ ถิ่นพระบาท. (2567). การศึกษาการอบแห้งฟ้าทะลายโจรด้วยเครื่องอบแห้งแบบฟลูอิดไดซ์เบด. ใน การประชุม วิชาการและนำเสนอผลงานทางวิศวกรรม นวัตกรรม และการจัดการอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ครั้งที่ 13 ประจำปี 2567 (น. 89-96). กรุงเทพฯ: ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค.
กิตติ สถาพรประสาธน์, กรณัฐ ทวีเจริญธรรม, กรวิชญ์ ตลับทอง, และฉัตรนิดา พรมมาโอน. (2563). การอบแห้งพริกไทยด้วยเทคนิคสเปาต์เต็ดเบดทำงานร่วมกับฟลูอิดไดซ์เบด วารสารคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 15(1), 1-11.
กองอาหาร. (2564). กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข, 424.
จันทิมา ชั่งสิริพร, พฤกระยา พงศ์ยี่หล้า, และนิรณา ชัยฤกษ์. (2566). ผลของการอบแห้งด้วยลมร้อนต่อการเปลี่ยนแปลงสีและปริมาณสารไมทราไจนีน ของใบกระท่อม. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 12(2), 1-8.
จุมพล แซ่เอี่ยม. (2547). การอบแห้งกากมะพร้าวด้วยเทคนิคฟลูอิไดเซชัน. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สาขาวิศวกรรมเครื่องกล.
จุไรทิพย์ หวังสินทวีกุล, และนิวัติ แก้วประดับ. (2563). ชีววิทยา พฤกษเคมี ของพืชกระท่อม. สืบค้นเมื่อ 11 ธันวาคม 2567, จาก https://cads.in.th/cads/media/upload/1594881548-Kratom%20Final.pdf
พิมพ์วิภา แพรกหา. (2560). การอบสมุนไพร((ดี))อย่างไร ??. สืบค้นเมื่อ 11 ธันวาคม 2567, จาก https://www.ttmed.psu.ac.th/th/blog/212
ธัชธาวินท์ สะรุโณ. (2565). กระท่อม. สืบค้นเมื่อ 9 เมษายน 2568, จาก https://www.doa.go.th/oard8/?page_id=4440/
บวร แสงสุวรรณ, และเชาว์ อินทร์ประสิทธิ์. (2558). แบบจำลองกระบวนการอบแห้งด้วยลมร้อนสำหรับเมล็ดชา ไม่กะเทาะเปลือก. ใน การประชุมวิชาการเครือข่ายวิศวกรรมเครื่องกลแห่งประเทศไทย (น. 225-232). นครปฐม: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน.
ปิยวัฒน์ สังข์สนิท, ณัฐชา ปัญญาวุฒิ, จุไรทิพย์ หวังสินทวีกุล, ระวี เจียรวิภา, อดิเรก รักคง, อนุสรณ์ เชิดทอง, ชานนท์สุนทรา, และปิ่น จันจุฬา. (2564). การวิจัยและพัฒนาการใช้สมุนไพรกระท่อมในการเลี้ยงแพะ: การศึกษาลักษณะสารพฤกษเคมีเบื้องต้นและองค์ประกอบทางเคมีของใบกระท่อม. วารสารแก่นเกษตร, 2, 332-338.
พัชรินทร์ ตาด้วง. (2555). การอบแห้งเมล็ดงาโดยเครื่องอบแห้งที่ใช้ฟลูอิดไดซ์เบด ร่วมกับปั๊มความร้อน. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, คณะวิศวกรรมศาสตร์, สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล.
เมธา สินธุโคตร. (2566). การอบแห้งแบบถังหมุนร่วมกับไมโครเวฟสำหรับการเตรียมลูกเดือยหุงสุกเร็ว. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, คณะวิศวกรรมศาสตร์, สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล.
สถาพรประสาธน์, กรณัฐ ทวีเจริญธรรม, กรวิชญ์ ตลับทอง, และฉัตรนิดา พรมมาโอน. (2563). การอบแห้งพริกไทยด้วยเทคนิคสเปาต์เต็ดเบดทำงานร่วมกับฟลูอิดไดซ์เบด. วารสารคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 15(1), 1-11.
สุคนธ์ชื่น ศรีงาม.(2549). กระบวนการทำอาหารแห้ง. กรุงเทพฯ: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ.
สุบงกช ทรัพย์แตง, ธิดารัตน์ เครือเทียน, ปัทมาพร จิตปรีดา, และวรวิทย์ วาณิชย์สุวรรณ. (2566). การตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีวิเคราะห์หาปริมาณไมทราไจนีนในสารสกัดใบกระท่อมโดยเทคนิคโครมาโทกราฟีของเหลวสมรรถนะสูง. วารสารวิทยาศาสตร์ประยุกต์, 12(2), 10-22.
อรุณพร อิฐรัตน์. (2564). พืช ‘กระท่อม’ สร้างเศรษฐกิจไทย! HOW TO เคี้ยวอย่างไรให้มีคุณ. สืบค้นเมื่อ 15 ธันวาคม 2567, จาก https://tu.ac.th/thammasat-150964-mitragyna-speciosa-build-thai-economy
อุไรวรรณ ทองแกมแก้ว. (2565). พืชกระท่อมสิ่งที่ควรรู้ คลังความรู้. สืบค้นเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2565, จาก https://tcd.tsu.ac.th/upload/files/1678855073_10%20%E0%B8%81%E0%B8%9E65%20%E2%80%9C%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E2%80%9D%20%20%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89.pdf
Chungsiriporn, J., Pongyeela, P., Chairerk, N., Lewkittayakorn, J., & Duangsuwan, W. (2023). Drying Characteristics and Mitragynine Content of Kratom Leaves. Chiang Mai Journal of Science, 50(6), 1-13.
LC-DAD Technique. (2017). In-house method TE-CH-421. Journal of AOAC International, 100(1), 18-24.
Sengnon, N., Vonghirundecha, P., Chaichan, W., Juengwatanatrakul, T., Onthong, J., Kitprasong, P., & Wungsintaweekul, J. (2023). Seasonal and geographic variation in alkaloid content of kratom (Mitragyna speciosa (Korth.) Havil.) from Thailand. Plants, 12(4), 949.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
เวอร์ชัน
- 2025-12-26 (2)
- 2025-12-25 (1)
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 PSRU Journal of Science and Technology

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุงแก้ไขตัวอักษรและคำสะกดต่างๆ ที่ไม่ถูกต้อง และต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร PSRU Journal of Science and Technology ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม และ
ผลการพิจารณาคัดเลือกบทความตีพิมพ์ในวารสารให้ถือมติของกองบรรณาธิการเป็นที่สิ้นสุด
