ความพึงพอใจของผู้รับบริการรักษาสิวเสี้ยน ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์รักษาสิวเสี้ยนชนิดผลัดเซลล์ผิว
คำสำคัญ:
ความพึงพอใจ, สิวเสี้ยน, กลุ่มผลิตภัณฑ์รักษาสิวเสี้ยนชนิดผลัดเซลล์ผิวบทคัดย่อ
การศึกษานี้วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจและปัญหาการใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์รักษาสิวเสี้ยนชนิดผลัดเซลล์ผิว ประกอบด้วย ยาทากลุ่มกรดวิตามินเอ ยาทากลุ่มเบนซิลเปอร์ออกไซด์ และยาทากลุ่มละลายเคราติน กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ที่มีปัญหาสิวเสี้ยนทั้งชายหญิงอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป มารักษาด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์รักษาสิวเสี้ยนชนิดผลัดเซลล์ผิวโดยเข้ารับการรักษาที่เพอร์โซน่าคลินิก เป็นระยะเวลา 4 เดือน (เดือนมกราคม-เมษายน 2562) ทั้งหมด 42 คน ใช้แบบสอบถามวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เพศหญิง อายุระหว่าง 30-39 ปี สถานภาพโสด การศึกษาระดับปริญญาตรี รายได้ 10,001-20,000 บาท และเป็นข้าราชการ/พนักงานของรัฐ ความพึงพอใจหลังใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์เป็นเวลา 12 สัปดาห์ เมื่อวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจหลังใช้โดยรวมอยู่ในระดับพอใจมากโดยค่าเฉลี่ย ( ) = 3.52 จาก 5.00 เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านผลิตภัณฑ์และด้านผลการรักษาความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ส่วนด้านราคาและด้านผลข้างเคียงหลังใช้อยู่ในระดับปานกลาง และข้อเสนอแนะจากกลุ่มตัวอย่างหลังใช้ คือ ยาบางตัวทำให้รู้สึกแสบใบหน้า คัน แห้ง ลอกเป็นขุย สิวเห่อในช่วง 4 สัปดาห์แรก จากนั้นอาการลดลงหลังใช้ครบ 12 สัปดาห์ กลุ่มตัวอย่างเสนอให้หาวิธีการลดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นในช่วงแรก ผลิตภัณฑ์บางตัวต้องทาวันละ 2 ครั้ง ทำให้ไม่สะดวก ในการใช้ บรรจุภัณฑ์ควรมีหลายขนาดเพื่อพกพาได้สะดวก ฝาปิดมีขนาดเล็กทำให้หลุดหายบ่อย และราคาผลิตภัณฑ์บางตัวสูงกว่าผลิตภัณฑ์กลุ่มอื่น
เอกสารอ้างอิง
บัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, 2(2), 341-353.
จาริณี อิศรางกูร ณ อยุธยา. (2559). ความพึงพอใจและพฤติกรรมการบริโภคขนมไทยของลูกค้าชาวไทยในกรุงเทพมหานคร. ปริญญา
นิพนธ์ ศศ.ม. สาขาวิชาการจัดการอุตสาหกรรมการบริการและท่องเที่ยว บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
นฤมล ธีรนุลักษณ์. (2554). การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพของครีมกรดซาลิไซลิก 2% กับครีมเตรติโนอิน 0.05% ในการรักษา
สิวเสี้ยนบริเวณจมูก. ปริญญานิพนธ์ วท.ม. สาขาวิชาตจวิทยา สำนักวิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ มหาวิทยาลัย
แม่ฟ้าหลวง.
ปารยะ อาศนะเสน. (2553). สิวเสี้ยน. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล สืบค้น 18 เมษายน 2562, จาก
https://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=479/.
ปุญญิสา สมฟองทอง. (2558). ปัจจัยส่วนประสมการตลาด การคำนึงถึงต่อการดูแลสุขภาพด้านความงามและการรับรู้ความแตกต่างที่มี
ผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อครีมบำรุงผิวหน้า. ปริญญานิพนธ์ บธ.ม. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
พรพิมล เพช็รโยธิน. (2558). ฤทธิ์การยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว (Propionibacterium acnes) จากสารสกัดของสาหร่าย
ทะเล. วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, 38(3), 273-281.
พิมพ์ทอง ภควัตสุนทร. (2558). การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลของยาเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ 5% กับยาเตรติโนอิน 0.05%
ในการรักษาสิวเสี้ยนบริเวณจมูก. ปริญญานิพนธ์ วท.ม. สาขาวิชาตจวิทยา สำนักวิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง.
พิสิษฐ์ ศิริปริยธรณ์. (2560). ความพึงพอใจของผู้รับบริการรักษาสิวด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ Phyto-C. ปริญญานิพนธ์ วท.ม. สาขาวิชา
วิทยาการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ วิทยาลัยการแพทย์บูรณาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
Baumann L. (2009). Chemical peels in Cosmetic dermatology: Principles and practice. (2nd ed.). New York: McGraw-
Hill.
Chun, S. H. et al. (2005). Trichostasis spinulosa arising within syringoma. The Journal of Dermatology, 32(7), 611-613.
Elston, D.M. & White, L. C. (2000). Treatment of trichostasis spinulosa with a hydroactive adhesive pad. Cutis, 66(1),
77-78.
Mills, O. H. & Kligman, A. M. (1973). Topically applied tretinoin in the treatment of trichostasis spinulosa. Archives of
Dermatology, 108(9), 378-380.
Singh-Behl, D. & Tung, R. (2009). Requisities in dermatology cosmetic dermatology. In Chemical peels. Illinois: Elsevier.
Young, M.C. et al. (1985). Trichostasis spinulosa. International Journal of Dermatology, 24(9), 575-580.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุงแก้ไขตัวอักษรและคำสะกดต่างๆ ที่ไม่ถูกต้อง และต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร PSRU Journal of Science and Technology ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม และ
ผลการพิจารณาคัดเลือกบทความตีพิมพ์ในวารสารให้ถือมติของกองบรรณาธิการเป็นที่สิ้นสุด
