สภาพป่าและการกักเก็บคาร์บอนในดินบริเวณป่าชายเลนคลองโคน จังหวัสมุทรสงคราม
คำสำคัญ:
ป่าชายเลน, การกักเก็บคาร์บอนในดิน, คลองโคน, สมุทรสงครามบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้ทำการศึกษาสภาพป่าและการใช้ประโยชน์พื้นที่ รวมทั้งประเมินปริมาณการกักเก็บคาร์บอนในดิน บริเวณป่าชายเลนคลองโคน อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม โดยสำรวจพื้นที่ในภาคสนามโดยใช้การสังเกต (Field observation) เก็บตัวอย่างดินแบบสุ่มกระจายทั่วทั้งพื้นที่ศึกษา (Simple random sampling) ในฤดูฝนและฤดูร้อน รวม 117 จุด (54 จุด ในฤดูฝน และ 63 จุด ในฤดูร้อน) โดยเก็บที่ระดับ 0 - 15 และ 15 - 30 เซนติเมตร แล้วประเมินปริมาณการกักเก็บคาร์บอนในดินจากปริมาณอินทรีย์คาร์บอนในดิน ความหนาแน่นรวมของดิน และความลึกของดิน ซึ่งผลการศึกษาพบว่า สามารถแบ่งพื้นที่ได้เป็น 3 พื้นที่ คือ ป่าชายเลนธรรมชาติ ป่าปลูกทดแทน พ.ศ. 2535 – 2547 และป่าปลูกทดแทน พ.ศ. 2547 ถึงปัจจุบัน แต่เมื่อประเมินปริมาณการกักเก็บคาร์บอนในดินของป่าชายเลนทั้ง 3 พื้นที่ ไม่พบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยการกักเก็บคาร์บอนในดินทั้งในเชิงพื้นที่ ฤดูกาล และระดับความลึกที่แตกต่างกันทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 แต่พบว่า ปริมาณการกักเก็บคาร์บอนในดินชั้นบนของป่าชายเลนทั้งสามพื้นที่ ในฤดูฝนมีค่าเฉลี่ย 5.58 ± 0.42, 6.22 ± 0.53 และ 5.91 ± 0.50 ตัน/ เฮกแตร์ ตามลำดับ ในฤดูร้อนมีค่าเฉลี่ย 6.02 ± 0.44, 6.27 ± 0.54 และ 5.60 ± 0.38 ตัน/ เฮกแตร์ ตามลำดับ สำหรับในดินชั้นล่างพบปริมาณการกักเก็บคาร์บอนในดินในฤดูฝนมีค่าเฉลี่ย 7.40 ± 0.73, 6.87 ± 0.42 และ 5.76 ± 0.55 ตัน/เฮกแตร์ ตามลำดับ และในฤดูร้อนมีค่าเฉลี่ย 5.25 ± 0.25, 6.01 ± 0.41 และ 5.14 ± 0.28 ตัน/เฮกแตร์ ตามลำดับ ซึ่งผลการศึกษาสามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบการจัดการพื้นที่ป่าชายเลนคลองโคน เพื่อดำเนินกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ รวมทั้งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับการดำเนินชีวิตของชุมชนอย่างเหมาะสมต่อไป
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุงแก้ไขตัวอักษรและคำสะกดต่างๆ ที่ไม่ถูกต้อง และต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร PSRU Journal of Science and Technology ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม และ
ผลการพิจารณาคัดเลือกบทความตีพิมพ์ในวารสารให้ถือมติของกองบรรณาธิการเป็นที่สิ้นสุด
