การประยุกต์ใช้ MCH เพื่อจำแนกคนปกติในกลุ่ม NORMAL Hb TYPING, NOT RULE OUT α–THALASSEMIA

ผู้แต่ง

  • นเรศ พูลอนันต์ โรงพยาบาลศูนย์สวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์

คำสำคัญ:

เอ็มซีเอช, อัลฟาธาลัสซีเมีย, การจำแนก

บทคัดย่อ

ธาลัสซีเมียเป็นโรคโลหิตจางชนิดหนึ่งที่พบบ่อยในประเทศไทย สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมสู่ลูกหลานได้ การตรวจทางห้องปฏิบัติการจึงมีบทบาทสำคัญในการคัดกรองหาคู่เสี่ยงต่อโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง การตรวจแยกชนิดฮีโมโกลบิน (Hb Typing) เป็นการตรวจเพื่อหาคู่เสี่ยง คนปกติที่ไม่เป็นโรคธาลัสซีเมีย ผลการตรวจแยกชนิดฮีโมโกลบินจะเป็น A2A และต้องพิจารณาควบคู่กับความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดแดง ถ้าเม็ดเลือดแดงสมบูรณ์สามารถรายงานผล A2A Normal แต่หากเม็ดเลือดแดงไม่สมบูรณ์รายงานผล A2A Normal Hb Typing, not rule out α-thalassemia อย่างไรก็ตามห้องปฏิบัติการอาจมีข้อจำกัดเครื่องมือตรวจแยกชนิดฮีโมโกลบิน ทำให้ไม่สามารถแยกอัลฟาธาลัสซีเมียกับคนปกติได้ จึงรายงาน Normal Hb Typing, not rule out α-thalassemia ดังนั้นจึงส่งตรวจยืนยันด้วยวิธีพีซีอาร์(Polymerase Chain Reaction, PCR) ต่อไป ซึ่งทำให้เสียงบประมาณ เพิ่มภาระงาน และผู้ป่วยต้องเสีย
เวลารอคอย ดังนั้นถ้าสามารถแยกคนปกติในกลุ่ม Normal Hb Typing, not rule out α-thalassemia ได้
จะลดปัญหาดังกล่าว การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประยุกต์ใช้ Mean corpuscular hemoglobin (MCH) ในการคัดคนปกติออกมาจากกลุ่ม Normal Hb Typing, not rule out  α-thalassemia หลังจากตรวจแยกชนิดของฮีโมโกลบินแล้ว เพื่อลดจำนวนการส่งตรวจพีซีอาร์ จากการศึกษาตัวอย่างที่ส่งตรวจพาหะ อัลฟาธาลัสซีเมียแล้ว รายงาน Normal Hb Typing, not rule out α-thalassemia จำนวน 125 ราย พบว่าที่เกณฑ์ของค่า MCH ≥ 22.2 พิโคกรัม สามารถคัดคนปกติออกได้ โดยมีค่าความไว ค่าความจำเพาะ
                                                                                   

 

เอกสารอ้างอิง

1. ผุสดี โตบันลือภพ. เปรียบเทียบการวัดปริมาณฮีโมโกลบินชนิดต่างๆ โดยเทคนิค Microcolumn Chromatography กับวิธี Elution หลังแยกด้วย Cellulose Acetate Electrophoresis เพื่อใช้ในการวินิจฉัยโรคธาลัสซีเมีย.วารสารเทคนิคการแพทย์. 2551; 36(1): 2258-2268.
2. อานนท์ บุณยะรัตเวช. โลหิตวิทยา: เม็ดเลือดแดง. ฟันนี่พับบลิชชิ่ง กรุงเทพมหานคร.2535: 340.
3. ต่อพงศ์ สงวนเสริมศรี, มาลิดา พรพัฒน์กุล, ปราณี ฟู่เจริญ, สุพรรณ ฟู่เจริญ, ทัศนีย์ เล็บนาค. ธาลัสซีเมีย: คู่มือการวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ. เครือข่ายงานธาลัสเซียเมียและมูลนิธิโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร. 2541: 90.
4. Winichagoon, P., Thonglairuam, V., Fucharoen, S., Tanphaichitr, V. and Wasi, P. α-thalassemia in Thailand. Hemoglobin. 1988; 12: 485-498.
5. Tangvarasittichai, O., Sitthiworanan, C., Dechgitvigrom, W., Sanguansermsri, T. and Jeenapongsa, R. Prevalence and haematological parameters of thalassaemia in Lower Northern Thailand. Haema. 2005; 8(2): 241-244.
6. Tangvarasittichai, S., Tangvarasittichai, O. and Jermnim, N.. Comparison of fast protein liquid chromatography (FPLC) with HPLC, electrophoresis & microcolumn chromatography techniques for the diagnosis of β-thalassaemia. Indian J Med Res. 2009; 129: 242-248.
7. Sirichotiyakul S, Maneerat J, Sa-nguansermsri T, Dhananjayanonda P and Tongsong T. Sensitivity and Specificity of Mean Corpuscular Hemoglobin (MCH): For Screening α-thalassemia-1 Trait and Beta-thalassemia Trait. J Med Assoc Thai. 2009; 92(6): 739-43.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-05-08

รูปแบบการอ้างอิง

พูลอนันต์ น. (2020). การประยุกต์ใช้ MCH เพื่อจำแนกคนปกติในกลุ่ม NORMAL Hb TYPING, NOT RULE OUT α–THALASSEMIA. Life Sciences and Environment Journal, 21(1), 69–77. สืบค้น จาก https://ph01.tci-thaijo.org/index.php/psru/article/view/222608

ฉบับ

ประเภทบทความ

Research Articles