การวิเคราะห์การถดถอยลอจิสติกเชิงพหุสำหรับความสัมพันธ์การดื่มแอลกอฮอล์กับปัจจัยต่าง ๆ กรณีศึกษาประชากรในจังหวัดพิษณุโลก

บทคัดย่อ

สำนักงานสถิติแห่งชาติมีการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มสุราของประชากรเป็นประจำทุก ๆ 3 ปี แต่อย่างไรก็ตามการนาเสนอข้อมูลผลการสำรวจของสานักงานสถิติแห่งชาติ จะเป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลในรูปของสถิติเชิงพรรณเท่านั้น ซึ่งยังไม่ได้แสดงผลของความเกี่ยวข้องหรือความสัมพันธ์ของตัวแปรต่าง ๆ ให้เห็นอย่างชัดเจน ดังนั้นในงานวิจัยนี้จึงได้ทำการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสภาวะการดื่มแอลกอฮอล์ (ความถี่ของการดื่มสุรา) ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ ผู้ที่ไม่ดื่มและผู้ที่ดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์กับปัจจัยต่าง ๆ โดยการใช้เทคนิคการวิเคราะห์ความถดถอยลอจิสติก (logistic regression analysis) พบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อสภาวะการดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยสำหรับการดื่มที่บ้าน ปริมาณที่ดื่มไม่เกิน 330 ซีซี และสาเหตุที่เริ่มดื่มฯ จากสมการพบว่าโอกาสในการดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์จะลดลงเมื่อค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยสำหรับการดื่มที่บ้านเพิ่มมากขึ้น และพบว่าโอกาสในการดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์จะเพิ่มขึ้นถ้าปริมาณที่ดื่มไม่เกิน 330 ซีซี นอกจากนี้ยังพบว่าโอกาสในการดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์จะเพิ่มขึ้นเมื่อทราบว่าสาเหตุที่เริ่มดื่มฯ เกิดจากอยากทดลองดื่มและตามอย่างเพื่อน/เพื่อนชวนดื่ม สำหรับสมการพยากรณ์สภาวะการดื่มแอลกอฮอล์ โดยพิจารณาการดื่มหรือไม่ดื่ม แสดงไว้ในสมการข้างล่าง

15P=e-0.003O1+2.526O2+3.293O3(1)+3.181O3(2)1+e-0.003O1+2.526O2+3.293O3(1)+3.181O3(2)'>

ซึ่งประโยชน์จากความสัมพันธ์และสมการพยากรณ์ฯ ที่ได้สามารถนำมาออกมาตรการป้องกันและแก้ไขได้เฉพาะเจาะจงและชัดเจนมากยิ่งขึ้น เช่น เพิ่มภาษีสุราหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ให้มากขึ้นเพื่อลดจำนวนคนที่ดื่ม หรือจำกัดขนาดบรรจุภัณฑ์ของสุราหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ให้มีปริมาณเกิน 330 ซีซี ขึ้นไป เพื่อทำให้โอกาสของการดื่มลดลง เป็นต้น  นอกจากนั้นแล้วการนำข้อมูลที่มีอยู่มาพัฒนาเป็นสมการพยากรณ์นี้ยังเป็นการพัฒนาฐานข้อมูลที่มีอยู่ให้ถูกใช้ประโยชน์ให้มากขึ้นโดยการใช้การวิเคราะห์สถิติขั้นสูงดังที่กล่าวมา