การพัฒนาเครื่องบีบแยกพลาสมาอย่างง่ายภายในองค์กรเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ใน ชั้นเรียนของนิสิตเทคนิคการแพทย์
คำสำคัญ:
เครื่องบีบแยกพลาสมา, ส่วนประกอบของเลือด, เทคนิคการแพทย์, การเรียนรู้, ชั้นเรียน, นวัตกรรมบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเครื่องบีบแยกพลาสมาอย่างง่ายให้แก่นิสิตเทคนิคการแพทย์ภายในสาขาวิชา และเพื่อประเมินผลการพัฒนาเครื่องบีบแยกพลาสมาในการส่งเสริมการเรียนรู้และความพึงพอใจต่อการเรียนการสอนในชั้นเรียนภาคปฏิบัติการรายวิชาวิทยาศาสตร์การบริการโลหิต 1 ของนิสิตสาขาวิชาเทคนิคการแพทย์ โดยกลุ่มตัวอย่างในงานวิจัยนี้ คือ นิสิตเทคนิคการแพทย์ชั้นปีที่ 3 ที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์การบริการโลหิต 1 ในภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 95 คน และเก็บข้อมูลการประเมินผลโดยใช้เครื่องมือในการวิจัย คือ แบบประเมินการพัฒนาเครื่องบีบแยกพลาสมา รวมถึงแบบประเมินความพึงพอใจต่อนวัตกรรมสื่อการเรียนในด้านคุณภาพของเครื่องบีบแยกพลาสมา และด้านความพึงพอใจต่อคุณภาพนวัตกรรมสื่อการเรียน โดยก่อนที่จะมีการใช้งานแบบสอบถามดังกล่าวได้รับการประเมินคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญแล้วจึงนำไปเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ โดยรายงานผลเป็นค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน รวมถึงเปรียบเทียบผลการประเมินความพึงพอใจระหว่างก่อนและหลังการใช้งานของนิสิตด้วยสถิติ paired sample t-test ผลการวิจัยพบว่า ภายหลังการใช้เครื่องบีบแยกพลาสมาอย่างง่ายในการเรียนปฏิบัติการ คะแนนเฉลี่ยด้านคุณภาพของเครื่องบีบแยกพลาสมาอยู่ที่ระดับมาก (4.46±0.61) และคะแนนเฉลี่ยด้านความพึงพอใจต่อคุณภาพนวัตกรรมสื่อประกอบการเรียนอยู่ที่ระดับมากที่สุด (4.64±0.54) ซึ่งพบความแตกต่างไปจากคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนทั้ง 2 ด้านอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) แสดงให้เห็นว่าเครื่องบีบแยกพลาสมาที่พัฒนาขึ้นภายในองค์กรสามารถส่งเสริมความพึงพอใจและการเรียนรู้ของนิสิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เอกสารอ้างอิง
ธิดาภัทร อนุชาญ และ พิษณุ อนุชาญ. (2566). การพัฒนาแอปพลิเคชันด้วยความเป็นจริงเสริมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ตามรอยพระพุทธเจ้าหลวง (รัชกาลที่ 5) ของจังหวัดสงขลา. วารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, 33(3), 1-15.
ภัทรณัฐสุดา จารุธีรพันธุ์. (2566). การพัฒนาแอปพลิเคชันความจริงเสริม (AR) สำหรับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ชุมชนไทดำ บ้านนาป่าหนาด อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย. วารสารสารสนเทศศาสตร์, 41(1), 87-102.
วรลักษณ์ วงศ์โดยหวัง ศิริเจริญ, ธันยา นวลละออง และ ชุตินันท์ ปทีปะปานี. (2564). เทคนิคความจริงเสริมด้านสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ. วารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม, 9(1), 120-129.
สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ. (2565ก). ตอบรับสมาชิก “สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน”. สืบค้นจาก http://rspg.or.th/botanical_school/neo_sbg/sbg_subscribe_status/north/LPN/751120001_โรงเรียนน้ำดิบวิทยาคม.pdf.
สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ. (2565ข). เอกสารเกี่ยวข้องกับงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน. สืบค้นจาก http://www.rspg.or.th/botanical_school/scb_document.htm.
อภิวดี จิตเกษมภูรี พิศประไพ สาระศาลิน และ ชัยพร พานิชรุทติวงศ์. (2562). เทคโนโลยีความจริงเสริมเพื่อการจัดแสดงเครื่องถ้วยไทย. การประชุมวิชาการระดับชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต ประจำปี 2562, วันที่ 26 เมษายน 2562 (น. 373-381). ปทุมธานี: สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยรังสิต.
เอกรัฐ วะราโภ และ อรวรรณ แท่งทอง. (2562). สื่อการเรียนรู้ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะด้วยเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) กรณีศึกษานักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. วารสารโครงงานวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ, 5(2), 77-83.
Azuma, R.T. (1997). A survey of augmented reality. Presence: Teleoperators and Virtual Environments, 6(4), 355-385.
Best, J.W. (1977). Research in Education (3rd ed). New Jersey: Prentice-Hall, Englewood Cliffs.
Likert, R. (1967). The method of constructing and attitude scale, in attitude theory and measurement. New York: Wiley & Son.
Rovinelli, R.J. and Hambleton, R.K. (1977). On the use of content specialists in the assessment of criterion-referenced test item validity. Tijdschrift voor Onderwijsresearch, 2(2), 49-60.
Yamane, T. (1967). Statistics: An Introductory Analysis (2nd ed). New York: Harper and Row.
