ปัจจัยที่มีผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงวิเคราะห์แบบภาคตัดขวางมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้วิจัยได้เลือกศึกษากลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ในเครือข่ายหน่วยบริการสุขภาพปฐมภูมิของโรงพยาบาลนครศรีธรรมราชมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 387 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม โดยดัชนีความสอดคล้อง (IOC) มีค่าเท่ากับ 0.98 และค่าความเชื่อมั่น (Reliability) ของแบบสอบถาม เท่ากับ 0.96 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา สถิติเชิงอนุมาน และการถดถอยพหุคูณ
ผลการศึกษาพบว่าอายุ, รายได้เฉลี่ยต่อเดือน, ความรู้ความเข้าใจทางสุขภาพ, การสื่อสารสุขภาพ, การตัดสินใจเลือกปฏิบัติที่ถูกต้อง, การจัดการตนเองเกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ, พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองด้านการบริโภคอาหาร, พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองด้านการใช้ยา, พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองด้านการไปพบแพทย์ตามนัด และ พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเอง มีผลต่อค่าระดับน้ำตาลในเลือดช่วงอดอาหาร (Fasting Blood Sugar ;FBS) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (R2 =0.632, p-value < 0.05) และอายุ, การเข้าถึงข้อมูลสุขภาพ, ความรู้ความเข้าใจทางสุขภาพ, การสื่อสารสุขภาพ, การตัดสินใจเลือกปฏิบัติที่ถูกต้อง, การจัดการตนเองเกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ, ความรอบรู้ด้านสุขภาพภาพรวม, พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองด้านการจัดการกับความเครียด, พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองด้านการใช้ยา, พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองด้านการไปพบแพทย์ตามนัด และ พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเอง มีผลต่อค่าระดับน้ำตาลในเลือดเฉลี่ยสะสม Glycated hemoglobin (HbA1c) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (R2 =0.712, p-value < 0.05)
ผลการศึกษาสามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้เป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายหรือกิจกรรมเชิงรุกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ในระดับพื้นที่
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะใดๆ ที่นำเสนอในบทความเป็นของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว โดยบรรณาธิการ กองบรรณาธิการ และคณะกรรมการวารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยปทุมธานี ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด มหาวิทยาลัย บรรณาธิการ และกองบรรณาธิการจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาดหรือผลที่เกิดจากการใช้ข้อมูลที่ปรากฏในวารสารฉบับนี้
เอกสารอ้างอิง
Best, J. W. (1977). Research in education (3rd ed.). Prentice-Hall
Dubey, A. K., Sahoo, J., Vairappan, B., Haridasan, S., Parameswaran, S., & Priyamvada, P. S. (2020). Correction of metabolic acidosis improves muscle mass and renal function in chronic kidney disease stages 3 and 4: A randomized controlled trial. Nephrology Dialysis Transplantation, 35(1), 121–129. https://doi.org/10.1093/ndt/gfy214
International Diabetes Federation. (2025). IDF Diabetes Atlas (11th ed.). International Diabetes Federation. https://diabetesatlas.org/resources/idf-diabetes-atlas-2025/
Marciano, L., Camerini, A. L., & Schulz, P. J. (2019). The role of health literacy in diabetes knowledge, self-care, and glycemic control: A meta-analysis. Journal of General Internal Medicine, 34(6), 1007–1017. https://doi.org/10.1007/s11606-019-04832-y
Nguyen, T. H., Vu, P. Q., Dao, T. T., & Nguyen, V. T. (2020). Health literacy and its correlates among patients with type 2 diabetes in low-income settings: A cross-sectional study. Diabetes & Metabolic Syndrome: Clinical Research & Reviews, 14(6), 1799–1804. https://doi.org/10.1016/j.dsx.2020.09.011
Nutbeam, D. (2000). Health literacy as a public health goal: a challenge for contemporary health education and communication strategies into the 21st century. Health Promotion International, 15(3), 259–267. https://doi.org/10.1093/heapro/15.3.259
Nutbeam, D. (2008). The evolving concept of health literacy. Social Science & Medicine, 67(12), 2072–2078. https://doi.org/10.1016/j.socscimed.2008.09.050
Schillinger, D., Grumbach, K., Piette, J., Wang, F., Osmond, D., Daher, C., Palacios, J., Sullivan, G. D., & Bindman, A. B. (2002). Association of health literacy with diabetes outcomes. JAMA, 288(4), 475–482. https://doi.org/10.1001/jama.288.4.475
World Health Organization. (2023). Diabetes. https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/diabetes
กรมควบคุมโรค. (2565). รายงานสถานการณ์โรคไม่ติดต่อเรื้อรังในประเทศไทย ปี 2565. กระทรวงสาธารณสุข.
กรมควบคุมโรค. (2566). สถิติผู้ป่วยโรคเบาหวานประจำปี 2566. กระทรวงสาธารณสุข.
จิราภรณ์ อริยสิทธิ์. (2564). ความรอบรู้ด้านสุขภาพกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารวิชาการแพทย์และสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 3, 18(2), 142-155.
จุฬามณี ฟักแฟง. (2566). ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมการจัดการตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในจังหวัดสงขลา. วารสารการพยาบาลและสุขภาพ, 37(2), 45–59.
วรรณี จิวสืบพงษ์, กฤษฎา เหล็กเพชร และจันทิมา นวะมะวัฒน์. (2565). ความรอบรู้ด้านสุขภาพที่มีผลต่อความสามารถในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ, 15(3), 30–43.
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7. (2567). รายงานสถานการณ์โรคไม่ติดต่อในเขตสุขภาพที่ 7 ปี 2567. กระทรวงสาธารณสุข.
สิทธานนท์ แจ่มหอม. (2566). ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพชุมชน, 19(2), 112–125.