ผลของโปรแกรมการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อชะลอความเสื่อมของไตในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง โรงพยาบาลเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-Experimental Research) รูปแบบการวิจัยแบบวัดซ้ำหนึ่งกลุ่ม ก่อนทดลอง - หลังการทดลอง (one group pre-test post-test design) วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อชะลอความเสื่อมของไตในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยที่มารับบริการคลินิกโรคไตเรื้อรัง โรงพยาบาลเลาขวัญ ปี 2567 จำนวน 45 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ โปรแกรมการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อชะลอความเสื่อมของไตในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง และแบบสอบถาม วิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานสถิติเชิงอนุมาน โดยใช้สถิติ paired t – test
ผลการศึกษา พบว่า หลังการทดลองคะแนนเฉลี่ยการรับรู้ความรุนแรงของโรคไตเรื้อรัง (= 5.80, p-value <0.001) การรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตเรื้อรัง (= 6.31, p-value <0.001) คาดหวังในประสิทธิผลของการตอบสนองที่เกิดจากผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง (= 5.62, p-value <0.001) การรับรู้ความสามารถของตนเองในการป้องกันโรคไตเรื้อรัง (= 5.49, p-value <0.001) และพฤติกรรมการปฏิบัติตัวเพื่อชะลอการเสื่อมของไต (= 9.67, p-value <0.001) สูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรติดตามผลหลังสิ้นสุดโปรแกรมในระยะยาว และส่งเสริมให้สมาชิกในครอบครัวมีบทบาทสำคัญในกระบวนการส่งเสริมพฤติกรรมของผู้ป่วย เพื่อให้เกิดแรงจูงใจและการปฏิบัติที่สอดคล้องกันในชีวิตประจำวัน
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะใดๆ ที่นำเสนอในบทความเป็นของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว โดยบรรณาธิการ กองบรรณาธิการ และคณะกรรมการวารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยปทุมธานี ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด มหาวิทยาลัย บรรณาธิการ และกองบรรณาธิการจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาดหรือผลที่เกิดจากการใช้ข้อมูลที่ปรากฏในวารสารฉบับนี้
References
กิ่งกมล เพชรศรี และกันตพร ยอดไชย. (2566). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ได้รับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019. วารสารวิจัยทางการพยาบาล การผดุงครรภ์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 43(1), 105-117.
ดวงดาว อรัญวาสน์, ญาณีกร สีสุรี และผดุงศิษฏ์ ชำนาญบริรักษ์. (2563). ผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อชะลอไตเสื่อมในผู้ป่วย โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกิ้ง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม. วารสารวิชาการสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม, 9(18), 1-12.
นิสากร วิบูลชัย, และรุ่งทิวา ศรีเดช. (2563). การพัฒนาโปรแกรมการเสริมสร้างแรงจูงใจในการจัดการตนเอง เพื่อชะลอไตเสื่อมใน ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง. วารสารแพทย์นาวี, 479(2), 373-391.
บุษรินทร์ สุวรรณมาโจ. (2567). ผลของโปรแกรมการดูแลตนเองตามแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพเพื่อชะลอการเสื่อมของไตในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะที่ 3 โรงพยาบาลโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม. วารสารสุขภาพและสิ่งแวดล้อมศึกษา, 9(1), 703-713.
พนิดา รัตนศรี. (2565). ผลของโปรแกรมสนับสนุนการจัดการตนเองเพื่อชะลอไตเสื่อมต่อ พฤติกรรมการจัดการตนเองและผลลัพธ์ทางคลินิกในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ของ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำราญ. วารสารสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ขอนแก่น, 4(2), 209-224.
พรพิมล นาคะ. (2567). ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองต่อพฤติกรรมการจัดการตนเองความดันโลหิตและอัตราการกรองของไตของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่มีโรคไตเรื้อรังระยะที่ 3. วารสารวิชาการเพื่อการพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ และสาธารณสุข, 2(2), 155- 166.
พิศิษฐ์ เสรีธรรมะพิทักษ์. (2566). ผลของโปรแกรมการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ เพื่อ ชะลอการเสื่อมของไต ในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะที่ 1-3a โรงพยาบาลโพนสวรรค์ จังหวัด นครพนม. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อม และสุขภาพชุมชน, 8(2), 563–573.
ราวดี โคตรพรหม. (2567). ผลของโปรแกรมการจัดการโรคไตเรื้อรังโดยใช้รูปแบบการดูแลโรคเรื้อรังผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะที่ 3 และระยะที่ 4 ในโรงพยาบาลวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสู่ชุมชน, 2(4), 60-73.
โรงพยาบาลเลาขวัญ. (2567). จำนวนผู้ป่วยที่มารับบริการคลินิกโรคไตเรื้อรัง โรงพยาบาลเลาขวัญ ปี 2563 – 2567 [เอกสารที่ไม่ได้ตีพิมพ์]. งานประกันสุขภาพ โรงพยาบาลเลาขวัญ.
วไลลักษณ์ มั่นคง นงพิมล นิมิตรอานันท์ และศศิธร รุจนเวช. (2567). ผลของการประยุกต์ แบบจำลองการดูแลระยะเปลี่ยนผ่าน เพื่อชะลอภาวะไตเสื่อมในผู้ป่วยโรคไต เรื้อรังที่มีภาวะ ความดันโลหิตสูง. วารสารพยาบาล, 73(4), 21-30.
สุจิตรา ภักดิ์จรุง. (2566). ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองต่อการชะลอความเสื่อมของไตระยะ 3 โรงพยาบาลคอนสวรรค์ อำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อม และสุขภาพชุมชน, 8(3), 712-717.Bandura, A. (1997). Self-efficacy: The exercise of control. New York: W. H. Freeman and Company.
Best, J. W. (1981). Research in education 4 th ed. New Jersey: Prentice Hall.
Dunn, S. P., & Rogers, R. W. (1986). Protection motivation theory and preventive health: Beyond the health belief model. Journal of Health Education Research. National.
Floyd, D. L., Prentice-Dunn, S., & Rogers, R. W. (2000). A meta-analysis of research on protection motivation theory. Journal of Applied Social Psychology, 30(2), 407–429. https://doi.org/10.1111/j.1559-1816.2000.tb02323.x.
Milne, S., Sheeran, P., & Orbell, S. (2000). Prediction and intervention in health- related behavior: A meta-analytic review of protection motivation theory. Journal of Applied Social Psychology, 30(1), 106–143.
Rogers, R. W. (1983). Cognitive and physiological processes in fear appeals and attitude change: A revised theory of protection motivation. In J. Cacioppo & R. Petty (Eds.), Social Psychophysiology (pp. 153–176). New York: Guilford Press.
Weiner, D. E. (2009). Public health consequences of chronic kidney disease. Clinical Pharmacology & Therapeutics, 86(5), 566-569.