ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อพื้นที่หน้าสัมผัสของยางหล่อดอกสำหรับรถบรรทุก

Main Article Content

ศราวุธ ธนากูล
ศุภสิทธิ์ รอดขวัญ

บทคัดย่อ

ในปัจจุบันยางหล่อดอกเป็นล้อยางที่มักจะถูกใช้ทดแทนยางใหม่สำหรับล้อยางรถบรรทุกและล้อยางรถโดยสารขนาดใหญ่ ที่ผ่านการใช้งานมาจนถึงกำหนดการเปลี่ยนโดยผ่านการตรวจสภาพของโครงยางเก่าให้อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถนำไปหล่อดอกใหม่ได้ พื้นที่หน้าสัมผัสยังสามารถบอกถึงประสิทธิภาพการใช้งานได้ ในงานวิจัยได้ทำการศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบที่มีต่อพื้นที่หน้าสัมผัสของยางหล่อดอกสำหรับรถบรรทุก ชนิดยางผ้าใบ ขนาด 10.00 – 20 โดยมีปัจจัยของตัวแปรต้น ในงานวิจัยนี้ที่สนใจคือ ลายดอกยางจำนวน 2 แบบได้แก่ลายดอกยาง BF, CT และ ความดันลมยางจำนวน 3 ค่า ที่ 100, 110, 120 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ภายใต้ปัจจัยคงที่ได้แก่ แรงกดในแนวตั้ง 7,300 นิวตันโดยในงานวิจัยพบว่าการทดสอบเพื่อทำนายผลของพื้นที่หน้าสัมผัสที่เกิดขึ้นได้ ผลจากการวิจัยพบว่าปัจจัยของความดันลมยางที่ 100 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว จะส่งผลให้ลายดอกยางทั้ง 2 แบบ ลายดอกยาง BF, CT มีพื้นที่หน้าสัมผัสมากที่สุดที่ 17,630, 16,544 ตารางมิลลิเมตร ตามลำดับ เมื่อเทียบกับความดันอื่นๆ นอกจากนั้นยังพบว่าปัจจัยของลายดอกยางทั้ง 2 แบบ ที่ความดันลมยางแตกต่างกัน ลายดอกยาง BF มีพื้นที่หน้าสัมผัสมากที่สุดในทุกๆกรณีเมื่อเทียบกับลายดอกยาง CT ซึ่งหากพิจารณาปัจจัยในด้านของพื้นที่หน้าสัมผัสที่มีผลต่อต่อการสึกหรอของลายดอกยางนั้นจะพบว่า ลายดอกยาง BF มีความน่าจะเป็นในการเกิดการสึกหรอน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับลายดอกยาง CT ดังนั้นงานวิจัยนี้จึงสามารถใช้เป็นแนวทางในการขยายผลการศึกษาปัจจัยอื่นๆที่ส่งผลต่อการสึกหรอของลายดอกยางของล้อยางหล่อดอกชนิดผ้าใบได้

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ธนากูล ศ., & รอดขวัญ ศ. (2016). ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อพื้นที่หน้าสัมผัสของยางหล่อดอกสำหรับรถบรรทุก. วารสารวิชาการ เทคโนโลยี พลังงานและสิ่งแวดล้อม บัณฑิตวิทยาลัย วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม, 3(1), 50–59. สืบค้น จาก https://ph01.tci-thaijo.org/index.php/JEET/article/view/180669
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

[1]. สถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร (2557). สถิติยางไทย, [ระบบออนไลน์], แหล่งที่มาhttp://www.rubberthai.com, เข้าดูเมื่อวันที่ 9/10/2557.

[2]. ศูนย์วิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมยางไทย (2555). ข้อมูลโรงงานยางหล่อดอกในประเทศไทย, [ระบบออนไลน์], แหล่งที่มา http://www.rubbercenter.org, เข้าดูเมื่อวันที่ 20/09/2555.

[3]. Karaytug, B. (2009). Footprint Analysis of Radial Passenger Tire, Institute of Natural And Applied Sciences University Of Çukurova.

[4]. Chen, L., Guolin, W., Dengfeng, A. and Yinwei, M. (2013). Tread Wear and Footprint Geometrical Characters of Truck Bus Radial Tires, School of Automobile and Traffic Engineering, Jiangsu University.