เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการขับเคลื่อนมรดกทางวัฒนธรรม บริเวณพื้นที่ชุมชนย่าน เมืองเก่าสงขลา สู่การเรียนรู้อย่างยั่งยืน
คำสำคัญ:
เทคโนโลยีดิจิทัล, มรดกทางวัฒนธรรม, เมืองเก่าสงขลา, การเรียนรู้อย่างยั่งยืนบทคัดย่อ
งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาระบบฐานข้อมูลเชิงพื้นที่ของแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม 2) พัฒนาระบบแผนที่ออนไลน์ในการแสดงแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม และ 3) พัฒนาระบบตอบกลับอัตโนมัติต้นแบบที่ให้บริการข้อมูลแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม บริเวณพื้นที่ชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลาของถนนนางงาม ถนนนครนอก และถนนนครใน ทางด้านสถาปัตยกรรม ด้านประวัติศาสตร์ และด้านวิถีชีวิตที่มีตำแหน่งพิกัดเชิงพื้นที่เท่านั้น การดำเนินการวิจัยมีการรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิจากการทบทวนวรรณกรรมมรดกทางวัฒนธรรมด้านสถาปัตยกรรม ด้านประวัติศาสตร์ และด้านวิถีชีวิตบริเวณเมืองเก่าสงขลา และข้อมูลปฐมภูมิจากการลงพื้นที่เพื่อจัดเก็บพิกัดตำแหน่งสถานที่ที่เกี่ยวข้อง ภาพถ่าย จากนั้นจำแนกออกเป็นแหล่งมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องได้ ได้แก่ สถาปัตยกรรม ภูมิทัศน์ โบราณสถาน และแหล่งมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ได้แก่ อาหาร วัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อ โดยข้อมูลที่เกี่ยวข้องถูกจัดให้อยู่ในรูปแบบที่มีพิกัดกริด UTM พื้นหลักฐาน WGS1984 ออกแบบและพัฒนายกระดับให้เป็นระบบฐานข้อมูลเชิงพื้นที่ ระบบแผนที่ออนไลน์ และระบบตอบกลับอัตโนมัติ เพื่อเป็นสื่อในการให้บริการข้อมูลบริเวณพื้นที่ชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา ท้ายสุดถ่ายทอดองค์ความรู้โดยจัดอบรมและส่งมอบข้อมูลการใช้งานระบบแผนที่ออนไลน์ ระบบตอบกลับอัตโนมัติ แก่กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษา พบว่า ระดับความพึงพอใจต่อการใช้งานโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.59 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.54 เพื่อให้มีช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลให้ทั่วถึงเกี่ยวกับแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การเรียนรู้ เกิดการอนุรักษ์วิถีชีวิตดั้งเดิมและหวงแหนพื้นที่มากขึ้น
เอกสารอ้างอิง
กรมศิลปากร. (2563). ระบบภูมิสารสนเทศ แหล่งมรดกทางศิลปวัฒนธรรม. จาก https://gis.finearts.go.th/fineart/.
กฤตธัช วงษ์คำ ศุภรัตน์ พิณสุวรรณ และวรุตม์ นาฑี. (2564). การจัดทำฐานข้อมูลทางภูมิศาสตร์เพื่อพัฒนาเครือข่ายโฮมสเตย์และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงภูมิศาสตร์ในอำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล. การประชุมวิชาการระดับชาติด้านภูมิศาสตร์และภูมิสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยในภาคใต้ครั้งที่ 1 วันที่ 17 พฤศจิกายน 2564. สงขลา: คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ.
จเร สุวรรณชาต. (2560). สงขลาสู่เมืองมรดกโลก. สงขลา: ภาคีคนรักเมืองสงขลาสมาคม.
ชัยวัฒน์ ชินอุปราวัฒน์. (2553). นครสงขลา เมืองเก่าและเรื่องราวในอดีต. อนุสาร อสท. 50(11), 51-61.
ธัญญรัตน์ ไชยคราม. (2563). การประยุกต์เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศเพื่อสร้างแผนที่ออนไลน์ผ่านเทคโนโลยี Google Maps GIS Online ในกลุ่มการท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. 28(4), 575-586.
ปิยาภรณ์ ธุระกิจจำนง, งามเพชร อัมพรวัฒนพงศ์, ธนวัฒน์ เลขาพันธ์, เจนจิรา ขุนทอง, รอฮานา แวดอเลาะ และทวีสินธุ์ ตั้งเซ่ง. (2562). ศักยภาพทรัพยากรในเขตมรดกทางวัฒนธรรม พื้นที่เมืองเก่าสงขลา เพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน. คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย. สงขลา.
ลักษณา สัมมานิธิ และ สิริวัฒก์ สัมมานิธิ. (2556). การสำรวจศักยภาพและพัฒนาฐานข้อมูลระบบภูมิสารสนเทศเมืองโบราณในแอ่งเชียงใหม่-ลำพูน เพื่อเป็นแนวทางพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงพื้นที่อย่างยั่งยืน. คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยแม่โจ้. เชียงใหม่.
ลักษนันท์ พลอยวัฒนาวงศ์. (2559). ระบบระบบฐานข้อมูลสารสนเทศมรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรมท้องถิ่น จังหวัดสุพรรณบุรี. กรุงเทพฯ: สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ.
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน). (2567). ย่านเมืองเก่าสงขลา. จาก https://wikicommunity.sac.or.th/community/349.
สำนักงานเทศบาลเมืองลำพูน. (2560). เล่าเรื่องเมืองเก่า. จาก https://lamphuncity.go.th/เล่าเรื่องเมืองเก่า/.
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. (2561). รายงานการประชุมสัมมนาวิชาการ คณะอนุกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า ภายใต้โครงการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า. จาก http://www.onep.go.th/nced/wp-content/uploads/2018/04/proceeding-1.0.pdf.
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2564). แผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (2561-2580). กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ.
สุรัตน์ เลิศล้ำ. (2556).การศึกษาความเชื่อมโยงของวัฒนธรรมท้องถิ่นสมัยอดีตถึงปัจจุบันเพื่อพัฒนาฐานข้อมูลวัฒนธรรมและอารยธรรมโบราณในพื้นที่บริเวณลุ่มแม่น้ำโขงและคาบสมุทรมลายา. วารสารวิชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. 11, 109-121.
Likert, R. (1967). The Method of Constructing and Attitude Scale, In Reading in Fishbeic, Martin, Ed, Attitude Theory and Measurement, Wiley & Son, New York, U.S.A., 90-95.
