ผลกระทบของตัวแปรการเชื่อมต่อการหลอมละลายลึกของการเชื่อมฟลักซ์คอร์เหล็กกล้าความแข็งแรงสูงต่อฉากสำหรับงานเครื่องจักรกลหนัก
คำสำคัญ:
การเชื่อมฟลักซ์คอร์, เหล็กกล้าความแข็งแรงสูง, การหลอมลึก, แก๊สปกคลุมแนวเชื่อมบทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของตัวแปรการเชื่อมต่อการหลอมละลายลึกของการเชื่อม ฟลักซ์คอร์เหล็กกล้าความแข็งแรงสูงต่อฉากสำหรับงานเครื่องจักรกลหนัก ทำการทดลองเพื่อหาสภาวะการเชื่อมที่เหมาะสมต่อการหลอมละลายลึกของชิ้นงานเชื่อมต่อฉากที่ได้จากการปรับตั้งตัวแปรการเชื่อมที่แตกต่างกันได้แก่ กระแสไฟเชื่อม แรงดันอาร์ก และชนิดของแก๊สคลุมวิธีการทดลองเตรียมชิ้นงานทดสอบเหล็กกล้าความแข็งแรงสูง ขนาด 100 x 380 x 10 มิลลิเมตร เลือกใช้ลวดเชื่อมฟลักซ์คอร์ (E111T1-GC H4) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ø 1.2 มิลลิเมตร ตามลำดับ ความเร็วในการเชื่อม 15 เซนติเมตรต่อนาที ระยะยื่นลวดเชื่อม 18 มิลลิเมตร โดยกำหนดสภาวะการเชื่อมกระแสไฟเชื่อมที่ 160, 180 และ 200 แอมแปร์ตามลำดับ แรงดันอาร์ก 20, 22 และ 24 โวลต์ ชนิดของแก๊สคลุมอาร์กอน คาร์บอนไดออกไซด์ และอาร์กอนผสมคาร์บอนไดออกไซด์ การใช้กระแสไฟเชื่อม และแรงดันอาร์กที่เพิ่มขึ้นทำให้การหลอมละลายลึกเพิ่มสูงขึ้นด้วยไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมในตำแหน่งท่าราบ หรือท่าระดับ หรือใช้แก๊สปกคลุมอาร์กอน คาร์บอนไดออกไซด์ หรือแก๊สผสมอาร์กอนกับคาร์บอนไดออกไซด์ โดยมีสภาวะการเชื่อมที่ให้การหลอมละลายลึกมากที่สุดคือ การเชื่อมด้วยกระแสไฟ 200 แอมแปร์ แรงดันอาร์ก 24 โวลต์ ความเร็วในการเชื่อม 15 เซนติเมตรต่อนาที แก๊สคลุมอาร์กอนผสมคาร์บอนไดออกไซด์ ลักษณะหรือรูปลักษณ์ของแนวเชื่อม (Weld Profile) ที่เหมาะสมได้แก่การหลอมละลายลึก ความสมมาตรของแนวเชื่อมต่อฉาก ความนูนของแนวเชื่อมได้รับจากสภาวะการเชื่อมด้วยกระแสไฟเชื่อม 200 แอมแปร์ แรงดันอาร์ก 24 โวลต์ ใช้แก๊สปกคลุมชนิดอาร์กอนผสมคาร์บอนไดออกไซด์ ตำแหน่งท่าราบจะสร้างบ่อหลอมของแนวเชื่อมได้อย่างสมมาตร และสร้างขอบขาของแนวเชื่อมหลอมละลายอย่างสมบูรณ์สูงสุด
คำสำคัญ : การเชื่อมฟลักซ์คอร์, เหล็กกล้าความแข็งแรงสูง, การหลอมลึก และแก๊สปกคลุมแนวเชื่อม
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการเผยแพร่ในวารสารเทคโนโลยีการผลิตและการจัดการนี้ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารเทคโนโลยีการ ผลิตและการจัดการหากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็น ลายลักษณ์อักษรจากวารสารเทคโนโลยีการผลิตและการจัดการก่อนเท่านั้น