การศึกษาความพร้อมในการเรียนด้วยอีเลิร์นนิงของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต

ผู้แต่ง

  • จิระ จิตสุภา สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
  • นวลศรี สงสม สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
  • ปรัชญนันท์ นิลสุข สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

คำสำคัญ:

ความพร้อมในการเรียน, อีเลิร์นนิง, นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความพร้อมในการเรียนด้วยอีเลิร์นนิงของนักศึกษาระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต และ 2) เปรียบเทียบความพร้อมในการเรียนด้วยอีเลิร์นนิงของนักศึกษาระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ต่างคณะ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตที่ลงทะเบียนเรียนในภาคเรียนที่ 1/2556 จำนวน 2,165 คน กำหนดจำนวนกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางสำเร็จรูปของเครซี่และมอร์แกน และเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยใช้การสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบประเมินความพร้อมในการเรียนด้วยอีเลิร์นนิง 6 ด้าน  จำนวน 27 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์ความแตกต่างรายคู่ด้วยเชฟเฟ่

ผลการวิจัย พบว่า ความพร้อมในการเรียนด้วยอีเลิร์นนิงของนักศึกษาโดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความพร้อมในการเรียนด้วยอีเลิร์นนิงอยู่ในลำดับแรก เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน พบว่า โดยรวมนักศึกษามีความพร้อมในการเรียนด้วยอีเลิร์นนิงด้านความสัมพันธ์และทักษะออนไลน์อยู่ในระดับมากในลำดับแรก เมื่อเปรียบเทียบความพร้อมในการเรียนด้วยอีเลิร์นนิงของนักศึกษา พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ โรงเรียนการท่องเที่ยวและการบริการมีความพร้อมในการเรียนด้วยอีเลิร์นนิงสูงกว่านักศึกษาคณะครุศาสตร์และโรงเรียนการเรือน และนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความพร้อมในการเรียนด้วยอีเลิร์นนิงสูงกว่านักศึกษาคณะครุศาสตร์ โรงเรียนการเรือนและโรงเรียนการท่องเที่ยวและการบริการ

เอกสารอ้างอิง

[1] กมล เรืองจุ้ย, วรนารถ แสงมณี และ ณัฐวุฒิ โรจน์นิรุตติกุล. 2554. ปัจจัยที่ส่งผลต่อความรู้และเจตคติเกี่ยวกับระบบอีเลิร์นนิ่งสำหรับการฝึกอบรมบุคลากร กรณีศึกษา: บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม, (10) ฉบับพิเศษ น. 230-238.

[2] นภาภรณ์ ฉัตรมณีรุ่งเจริญ. 2555. การศึกษาการยอมรับการจัดการเรียนรู้แบบอีเลิร์นนิงของอาจารย์และนิสิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน. Veridian E-Journal, 5(2), น. 388-402.

[3] รัชนีวรรณ ตั้งภักดี. 2556. รูปแบบการจัดการงานอีเลิร์นนิงของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย: บทสรุปและบทเรียนจากสถาบันที่มีประสบการณ์. การประชุมวิชาการระดับชาติด้านอีเลิร์นนิง 2556, น. 447-458.

[4] Saekow, A. and Samson, D. 2011. E-Learning Readiness of Thailand’s Universities Comparing to the USA’s Cases. International Journal of e-Education, e-Business, e-Management and e-Learning, 1(2), pp. 126-131.

[5] Fageeh, A. 2011. EFL students’ readiness for elearning: factors influencing e-learning acceptance of the BlackboardTM in a Saudi University. The JALT Call Journal, 7(1), 19-42.

[6] เสมอกาญจน์ โสภณหิรัญรักษ์ และ ปราวีณยา สุวรรณ รัฐโชติ. 2555. มุมมองของผู้สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงในโปรแรกมอีเลิร์นนิงเพื่อการส่งเสริมการนำการเรียนการสอนแบบอีเลิร์นนิงไปใช้ในระดับอุดมศึกษา. การประชุมวิชาการระดับชาติด้านอีเลิร์นนิง 2555, น.73-80.

[7] ผกาสิน พูนพิพัฒน์ ภัทรชัย ลลิตโรจน์วงศ์ และ พิชัย สดภิบาล. 2546. องค์ประกอบที่ต้องคำนึงถึงในการพัฒนา e-Learning. วารสาร Nectec, น.23-32.

[8] อลิสา ทรงศรีวิทยา. 2554. ความพร้อมของนักศึกษาสาขาวิชาคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ที่มีต่อการเรียนแบบอีเลิร์นนิ่ง. การประชุมวิชาการระดับชาติด้านอีเลิร์นนิง 2554, น. 568-572.

[9] Aydin, C. H., and Tasci, D. 2005. Measuring Readiness for e-Learning: Reflections from an Emerging Country. Educational Technology & Society, 8 (4), pp. 244-257.

[10] บุศรินทร์ ผัดวัง และสุภาภรณ์ อุดมลักษณ์. 2554. ความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนีนครลำปาง. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 21(2), น. 74-84.

[11] อัญชลีกร วิสิทธิ์วงษ์ และมธุรดา ม่วงมัน. 2554. การศึกษาความคิดเห็น ความพร้อมและการยอมรับในการเรียนการสอนแบบ e-Learning ของอาจารย์วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนี นครสวรรค์ประชารักษ์นครสวรรค์. วารสารการพยาบาลและการศึกษา, 4 (1), น. 17-28.

[12] ไพศาล จันทรังษี และ ชิษณุพงศ์ ทองพวง. 2556. ความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาการจัดการภาครัฐและเอกชน. การประชุมวิชาการระดับชาติด้านอีเลิร์นนิง 2556, น. 482-487.

[13] เจือจันทน์ วัฒกีเจริญ และ ปรัชญนันท์ นิลสุข. 2556. ความพร้อมในการเรียนด้วยอีเลิร์นนิงของนักศึกษาพยาบาลระดับปริญญาเอก. การประชุมวิชาการระดับชาติด้านอีเลิร์นนิง 2556, น. 491-496.

[14] จิระ จิตสุภา ปรัชญนันท์ นิลสุข และ นวลศรี สงสม. (2556). ความพร้อมในการเรียนด้วยอีเลิร์นนิงของนักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ. การประชุมวิชาการระดับชาติด้านอีเลิร์นนิง 2556, น.459-464.

[15] Watkins, R. , Leigh, D. and Triner, D. 2004. Assessing Readiness for E-Learning. Performance Improvement Quarterly. 17(4) ;2004 ; pp. 66-79.

[16] Yuan, Williams, B., Fang, and Pang. 2012. Chinese baccalaureate nursing students' readiness for self-directed learning. Nurse Education Today, 32, 427-431, doi :10.1016/j.nedt.2011.03.005.

[17] El-Gilany, A-H., Abusaad, F.E.S. 2012. Selfdirected learning readiness and learning styles among Saudi undergraduate nursing students, Nurse EducationToday. doi:10.1016/j.nedt.2012.05.003

[18] Hung, Chou, Chen, and Own. 2010. Learner readiness for online learning: Scale development and student perceptions. Computer & Education. 55(2010), pp. 1080-1090:

[19] มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต. 2552. แผนกลยุทธ์มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552-2556. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2014-08-25

รูปแบบการอ้างอิง

จิตสุภา จ., สงสม น., & นิลสุข ป. (2014). การศึกษาความพร้อมในการเรียนด้วยอีเลิร์นนิงของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม, 13(2), 66–73. สืบค้น จาก https://ph01.tci-thaijo.org/index.php/JIE/article/view/26493

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย