ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการชนกลุ่มน้อย ในการพัฒนาท้องถิ่นเพื่อความมั่นคงของมนุษย์ : ศึกษาเฉพาะกรณีกลุ่มผู้ใช้ แรงงานชาวพม่าในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนบนของประเทศไทย
คำสำคัญ:
ยุทธศาสตร์, การบริหารจัดการชนกลุ่มน้อย, การพัฒนาท้องถิ่น, ความมั่นคงของมนุษย์, ผู้ใช้แรงงานชาวพม่าบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์หลักของการวิจัย คือ 1) ยุทธศาสตร์การบริหารชนกลุ่มน้อยชาวพม่าในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนบนของประเทศไทย (จังหวัดชุมพร ระนองและพังงา) เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นร่วมกันอย่างยั่งยืน 2) ศึกษาภาวะผู้นำด้านความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นร่วมกันอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนบนของประเทศไทย (จังหวัดชุมพร ระนองและพังงา) 3) เสนอรูปแบบของยุทธศาสตร์การบริหารชนกลุ่มน้อยแรงงานชาวพม่า เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นร่วมกันอย่างยั่งยืน ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนบนของประเทศไทย (จังหวัดชุมพร ระนองและพังงา) ด้านระเบียบวิจัย การวิจัยครั้งนี้ใช้การวิจัยเชิงคุณภาพ จำนวนรวมทั้งสิ้นจำนวน 41 คน และการวิจัยเชิงปริมาณ โดยการแจกแบบสอบถามจำนวน 450 คน สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า
1) ยุทธศาสตร์การบริหารชนกลุ่มน้อยชาวพม่าในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนบนของประเทศไทย (จังหวัดชุมพร ระนองและพังงา) เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นร่วมกันอย่างยั่งยืน มีความคิดเห็นเห็นว่า การบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติ ยังคงเน้นการรักษาความมั่นคงของรัฐชาติ โดยมุ่งจัดระบบควบคุมแรงงานผิดกฎหมายที่ลักลอบเข้ามาทำงานและอยู่ในประเทศให้เข้าระบบ ได้กลายเป็นการสร้างกฎเกณฑ์ที่ซับซ้อนทำให้มีผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายและการค้ามนุษย์
2) ภาวะผู้นำด้านความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นร่วมกันอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนบนของประเทศไทย (จังหวัดชุมพร ระนองและพังงา) มีความคิดเห็นว่าต้องสร้างความไว้วางใจ เพื่อทำให้สมาชิกเชื่อมั่น และยอมรับในตัวผู้นำ จึงจะสามารถนำพากลุ่มให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างสำเร็จ
3) รูปแบบของยุทธศาสตร์การบริหารชนกลุ่มน้อยแรงงานชาวพม่า เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นร่วมกันอย่างยั่งยืน ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนบนของประเทศไทย (จังหวัดชุมพร ระนองและพังงา) จากอดีตถึงปัจจุบัน สรุปได้ว่า มีรูปแบบของ “ความสัมพันธ์ด้านเชื้อชาติแบบผู้สูงส่ง-ผู้ต่ำต้อยและไร้มิตรภาพ” ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบที่เหมาะสมในอนาคต คือ “การดำรงชีวิตแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ที่เท่าเทียมและเปี่ยมมนุษยธรรม”
เอกสารอ้างอิง
[2] Kavin Bank. 2006. The impact of Globalization on Labor Standards A second look of evidence in Globalization and the future of labor law. New York: Cambridge University Press
[3] สุพัตตรา ธิมาคำ และบงกชมาศ เอกเอี่ยม. 2554. แนวคิดและแนวทางการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติพม่า : บทบาทภาครัฐและภาคประชาสังคมในระดับท้องถิ่นกับการบริหารจัดการอย่างเป็นธรรม. เอกสารการประชุมวิชาการ, มหาวิทยาลัยขอนแก่น (เอกสารอัดสำเนา)
[4] Yamane Taro. 1970. Statistic : An Introductory Analysis. Tokyo. Harper International Edition พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
[5] กฤตยา อาชวนิจกุล. 2548. ชนกลุ่มน้อยที่ได้รับสถานะให้อยู่อาศัยในประเทศไทย. วารสารดำรงราชานุภาพ. 15(16), 110-118
[6] กฤตยา อาชวนิจกุลและกุลภา วจนะสาร. 2551. รายงานการวิจัยการจ้างแรงงานข้ามชาติตามพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ 2551. สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล. (เอกสารอัดสำเนา).
[7] หัสยา ไทยานนท์. 2555. ประชาคมอาเซียน 2558 : อนาคตและการปรับกระบวนทัศน์ประเทศไทย. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ. ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย.
[8] ภัคพงศ์ ปวงสุข. 2553. ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเศรษฐกิจพอเพียงของประชาชน จังหวัดอำนาจเจริญ. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม. 9(2), น. 39
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
"ข้อคิดเห็น เนื้อหา รวมทั้งการใช้ภาษาในบทความถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน"