บทเรียนช่วยฝึกทักษะแบบฐานสมรรถนะ เรื่องการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานความร้อน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาหาคุณภาพและประสิทธิภาพของบทเรียนช่วยฝึกทักษะแบบฐานสมรรถนะ เรื่องการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานความร้อน ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้เรียนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ 2 แผนกวิชาช่างไฟฟ้ากำลัง วิทยาลัยเทคนิคสิชล ที่ลงทะเบียนเรียนวิชา งานซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า (2104-2111) จำนวน 25 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบไปด้วยบทเรียนช่วยฝึกทักษะแบบฐานสมรรถนะ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดความสามารถการฝึกปฏิบัติ และแบบประเมินคุณภาพด้านเนื้อหาและด้านเทคนิคการผลิตสื่อ สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าร้อยละ
ผลการวิจัย พบว่า 1) บทเรียนช่วยฝึกทักษะแบบฐานสมรรถนะ เรื่องการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานความร้อน มีคุณภาพด้านเนื้อหาอยู่ในระดับดีมาก ( = 4.79, S.D = 0.32) และด้านเทคนิคการผลิตสื่ออยู่ในระดับดีมาก (
= 4.72, S.D. = 0.27) 2) ประสิทธิภาพของบทเรียนช่วยฝึกทักษะแบบฐานสมรรถนะ เรื่องการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานความร้อน พบว่าผู้เรียนร้อยละ 100 ของผู้เรียนผ่านเกณฑ์คิดเป็นร้อยละ 83.44 ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานที่กำหนดไว้
Article Details
"ข้อคิดเห็น เนื้อหา รวมทั้งการใช้ภาษาในบทความถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน"
References
Office of the Vocational Education Commission. 2557. Certificate of Vocational Education 2556. Bangkok : Minburi Technical College
Sukon Sintapanon. 2553. Innovative teaching to improve the quality of youth. Bangkok : Printing Techniques.
Pichai Sotpiban. 2543. CBST Training Kit Development Guide. Department of Skills Development, Ministry of Labor and Social Welfare. Thailand.
Kanda Punlaptawi. 2530. Research Statistics. Bangkok : Physics Center.
Jakkaphun Nilphat, Paiboon Pongwongtragull, and Wisuit Sunthonkanokpong. 2561. Augmented Reality Learnning Media on Solar Energy. Journal of Industrial Education, 17(2), p. 207-214.
Kinnaree Chianghor, Piya Supavarasuwat, Wisuit Sunthonkanokpong, and Sunti Tuntrakool. 2561. Internet Basic Tutorial Lesson on Cable TV. Journal of Industrial Education, 17(1), p. 113-119.