กิจกรรมการเรียนเขียนโปรแกรมเป็นคู่ด้วยเครื่องมือการพัฒนาเว็บร่วมกันเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเขียนโปรแกรมเว็บของนักศึกษาระดับปริญญาตรี

ผู้แต่ง

  • นพดล ผู้มีจรรยา สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม จ.นครปฐม 73000
  • สุมาลี สิกเสน สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม จ.นครปฐม 73000

คำสำคัญ:

การเขียนโปรแกรมเป็นคู่, เครื่องมือพัฒนาเว็บร่วมกัน, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเขียนโปรแกรมเว็บ

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน และประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาระดับปริญญาตรีต่อกิจกรรมการเรียนเขียนโปรแกรมเป็นคู่ด้วยเครื่องมือการพัฒนาเว็บร่วมกันเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเขียนโปรแกรมเว็บ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือนักศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม จำนวน 39 คน ใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย กิจกรรมและแผนการเรียนรู้ เครื่องมือสำหรับการพัฒนาเว็บร่วมกัน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจ โดยใช้การวิเคราะห์สถิติด้วยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test dependent ผลการวิจัยพบว่า กิจกรรมการเรียนเขียนโปรแกรมเป็นคู่ประกอบด้วย ขั้นเตรียมการเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับผู้เรียน ขั้นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนเขียนโปรแกรมเป็นคู่ด้วยเครื่องมือพัฒนาเว็บร่วมกัน และ ขั้นการประเมินผลเป็นการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจของผู้เรียน โดยมีผลการประเมินความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนรู้จากผู้ทรงคุณวุฒิ จัดอยู่ในระดับมากที่สุด (gif.latex?ป\bar{x}=4.64, S.D.=0.51) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน (gif.latex?ป\bar{x}=31.49, S.D.=6.30) มากกว่าก่อนเรียน (gif.latex?ป\bar{x}=16.44, S.D.=4.29) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และ ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อกิจกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับมากที่สุด (gif.latex?ป\bar{x}=4.65, S.D.=0.51)

เอกสารอ้างอิง

Lonin, N., Sukkamart, A., & Pimdee, P. 2016. The development of web-base instruction for review on create a website using for bachelor students at bangkok suvarnabhumi university. Journal of industrial education, 15(1), pp. 179-186.

Partnership for 21st century learning. 2017. Framework for 21st Century Learning. Retrieved April 2, 2017, from https://www.p21.org/our-work/p21-framework

Preston, D. 2005. Pair programming as a model of collaborative learning: a review of the research. Journal of Computing Sciences in colleges, 20(4), pp. 39-45.

Beck, K. 1999. Extreme programming explained: embrace change. Massachusetts: Addison-Wesley Longman Publishing.

Preston, D. 2006. Using collaborative learning research to enhance pair programming pedagogy. ACM SIGITE Newsletter, 3(1), pp. 16-21.

The National Center for Women & Information Technology. 2017. Pair Programming-in-a-Box: The Power of Collaborative Learning. Retrieved April 5, 2017, from https://www.ncwit.org/resources/pair-programming-box-power-collaborative-learning

Nan, I., Kau, B., & Rugelj, J. 2008. Pair programming as a modern method of teaching computer science. International Journal of Emerging Technologies in Learning (iJET), (3), pp. 45-49.

Lee, R., & Ahlswede, T. 2007. Evaluating the usefulness of pair programming in a classroom setting. In Computer and Information Science, 2007. In 6th IEEE/ACIS International Conference, pp. 302-308.

Kongcharoen, C., & Hwang, W. Y. 2015. A study of pair-programming configuration for learning computer networks. In Ubi-Media Computing (UMEDIA) International Conference, pp. 369-375.

Seyam, M., et al. 2016. Teaching mobile application development through lectures, interactive tutorials, and Pair Programming. In Frontiers in Education Conference (FIE), pp. 1-9.

Zacharis, N. 2009. Evaluating the effects of virtual pair programming on students’ achievement and satisfaction. International Journal Of Emerging Technologies In Learning (IJET), 4(3),pp. 34-39.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-04-29

รูปแบบการอ้างอิง

ผู้มีจรรยา น., & สิกเสน ส. (2019). กิจกรรมการเรียนเขียนโปรแกรมเป็นคู่ด้วยเครื่องมือการพัฒนาเว็บร่วมกันเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเขียนโปรแกรมเว็บของนักศึกษาระดับปริญญาตรี. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม, 18(1), 137–144. สืบค้น จาก https://ph01.tci-thaijo.org/index.php/JIE/article/view/150207

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย