ผลการใช้กิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และเจตคติต่อการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต เรื่องระบบนิเวศ สำหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ

ผู้แต่ง

  • ภริตา ตันเจริญ ภาควิชาการจัดการเรียนรู้ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
  • นพมณี เชื้อวัชรินทร์ ภาควิชาการจัดการเรียนรู้ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
  • สมศิริ สิงห์ลพ ภาควิชาการจัดการเรียนรู้ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
  • เชษฐ์ ศิริสวัสดิ์ ภาควิชาการจัดการเรียนรู้ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

คำสำคัญ:

กิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD, วิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, เจตคติต่อการเรียน

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  และเจตคติต่อวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตเรื่องระบบนิเวศ  สำหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ  ระหว่างก่อนและหลังการจัดการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค  STAD   กับเกณฑ์ร้อยละ  70  กลุ่มที่ศึกษาเป็นนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ  สาขาวิชาช่างไฟฟ้ากำลัง  ภาคเรียนที่  1  ปีการศึกษา  2560  วิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา  ตำบลหน้าเมือง  อำเภอเมือง  จังหวัดฉะเชิงเทรา  จำนวน  30  คน  ใช้เวลาในการทดลอง  12  ชั่วโมง  เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย  ประกอบด้วย  แผนการจัดการเรียนรู้  แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  และแบบวัดเจตคติต่อวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต  เรื่องระบบนิเวศ  สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล  คือ  ค่าร้อยละ  ค่าเฉลี่ย  และการทดสอบค่าที 

ผลการวิจัยพบว่า

1. นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาวิชาช่างไฟฟ้ากำลัง  ที่เรียนวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต  เรื่องระบบนิเวศ  ด้วยการใช้กิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค  STAD  มีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

2. นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาวิชาช่างไฟฟ้ากำลัง  ที่เรียนวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต  เรื่องระบบนิเวศ  ด้วยการใช้กิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค  STAD  มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  หลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ  70  อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  .05

3. นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาวิชาช่างไฟฟ้ากำลัง  ที่เรียนวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต  เรื่องระบบนิเวศ  ด้วยการใช้กิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค  STAD  มีเจตคติต่อวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต  เรื่องระบบนิเวศ  หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน  อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  .05 

4. นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ  สาขาวิชาช่างไฟฟ้ากำลัง  ที่เรียนวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต  เรื่องระบบนิเวศ  ด้วยการใช้กิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค  STAD  มีเจตคติต่อวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต  เรื่องระบบนิเวศ  หลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดร้อยละ  70  อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  .05

เอกสารอ้างอิง

[1] Ministy of Education. 2013. Curriculum for The Certificate of Vocational Education. Department of Education, Bangkok.

[2] Chutima Phayungphon. (2013, September 18). Senior Professional Level Teacher. [Interview].

[3] Slavin, R.E. 1995. Cooperative Learnong Theory, Research and Practice. 2nd ed. Massachsetts: A Simom & Schuster.

[4] Jiraporn Sirithawi. 1998. Constructisism. Veridian E-Joernal, 1(9): 37-52.

[5] Somphote Anaksuk. 2011. Statistical method for Research 5th ed. Chonburi: Faculty of Education Burapha University.

[6] Prapapan Boonyang. 2016. Effect of Using Learning Active Package on Ecosystem for Matthayomsuksa III Student with The Cooperative Learning STAD Technique. Master degree of Education (Curriculum and Instruction), Burapha University.

[7] Chompoo Sujjavanich. 2010. The effect of STAD Collaborative Learnong Model by Using A learning pakage on The topic of “Climate” in The Science Learning Strand for Grade 7th Student. Master degree of Education (Curriculum and Instruction), Rajabhat Mahasarakham University.

[8] Phop Laohaphaibun. 2009. Science teching. 8th ed. Bangkok: Thaiwatthanaphanit.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-09-19

รูปแบบการอ้างอิง

ตันเจริญ ภ., เชื้อวัชรินทร์ น., สิงห์ลพ ส., & ศิริสวัสดิ์ เ. (2018). ผลการใช้กิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และเจตคติต่อการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต เรื่องระบบนิเวศ สำหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม, 17(2), 188–196. สืบค้น จาก https://ph01.tci-thaijo.org/index.php/JIE/article/view/126369

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย