การพัฒนาบทเรียนอีเลิร์นนิ่งเรื่อง ข้อมูล ตัวแปร และค่าคงที่ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
คำสำคัญ:
บทเรียนอีเลิร์นนิ่ง, การประเมินคุณภาพ, ประสิทธิภาพ, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, ข้อมูลตัวแปรและค่าคงที่บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาบทเรียนอีเลิร์นนิ่งเรื่อง ข้อมูล ตัวแปรและค่าคงที่ สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างกลุ่มนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนอีเลิร์นนิ่งกับกลุ่มนักเรียนที่เรียนด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้แบบปกติ เรื่อง ข้อมูล ตัวแปรและค่าคงที่ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวังน้ำเย็นวิทยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 ได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่ม จำนวน 3 ห้อง รวม 110 คน โดยกลุ่มแรกหาประสิทธิภาพเรียนของบทเรียนอีเลิร์นนิ่ง จำนวน 30 คน กลุ่มที่สองเรียนด้วยบทเรียนอีเลิร์นนิ่ง จำนวน 40 คน และกลุ่มที่สามเรียนด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้แบบปกติ จำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วยบทเรียนอีเลิร์นนิ่งเรื่อง ข้อมูล ตัวแปรและค่าคงที่สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แบบประเมินคุณภาพของบทเรียนอีเลิร์นนิ่ง และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่า IOC อยู่ระหว่าง 0.67-1.00 ค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.50- 0.73 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.20-0.60 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.85 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบค่าทีชนิดสองกลุ่มเป็นอิสระต่อกัน ผลการวิจัยพบว่า
- บทเรียนอีเลิร์นนิ่งเรื่อง ข้อมูล ตัวแปรและค่าคงที่ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีคุณภาพด้านเนื้อหาอยู่ในระดับ ดีมาก (x̄ =4.82, S.D.=0.39) และคุณภาพด้านเทคนิคการผลิตสื่ออยู่ในระดับดีมาก (x̄ =4.83, S.D.=0.38)
- บทเรียนอีเลิร์นนิ่งเรื่อง ข้อมูล ตัวแปรและค่าคงที่ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 82.87/81.56
- ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนอีเลิร์นนิ่งสูงกว่านักเรียนที่เรียนด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้แบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
เอกสารอ้างอิง
[2] Klaysang Jintawee. 2013. E-Learning Courseware : Concept to practice for e-learning at all levels. 2nded. Bangkok : V.Print (1991).
[3] Laohajarussang Thanom. 2002. Designing e-Learning : Principles of web design and creation for teaching and learning. Bangkok : Arunkanpim.
[4] Ruttanatirakul Arnut. 2010. Install and Manage Windows Web Hosting for Organization. Bangkok : Se-Education.
[5] Muangman Pornthep. 2001. Designing and Development CAI Multimedia with Authorware. Bangkok : Se-Education.
[6] Ritchie,D.C., & Hoffman, B. 1997. Incorporating instructional design principles with the Word Wide Web. In B.H. Khan (ED.) Web-Based Instruction (pp.135-138)
[7] Meearsa Suchira Klinhom Lertlak and Mano Kitipong. 2009. Development of tutorial web based instruction on basic data management entitled data sorting. Journal lf Industrial Education, 8(2), p.11-20.
[8] Brahmawong Chaiyong. 2013. Developmental Testing of Media and Instructional Package. Silpakorn Educational Research Journal, 5(1), 7-20.
[9] Anderson, L. W. and Krathwohl, D. R., et al. 2001. A taxonomy for learning, teaching, and assessing: A revision of Bloom’s Taxonomy of Educational Objectives (Complete edition). New York: Longman.
[10] Penmongkhol Sudarat Pimdee Paitoon and Klinhom Lertlak. 2015. Delvelopment of Web-Base Instruction for Review on Data Communication Computer Network for High School Students. Journal lf Industrial Education, 14(2), 167-173.
[11] Tema Anchalee. 2008. Web-based instruction on chemistry in daily life. Master of Industrial Education, Educational Technology in Vocational and Technical Education, King Mongkut's Institute of Technology Ladkrabang.
[12] Mamath Laddawan. 2011. Web-based instruction on data and information for information and communication technology. Master of Science in Science Education (Computer), King Mongkut's Institute of Technology Ladkrabang.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
"ข้อคิดเห็น เนื้อหา รวมทั้งการใช้ภาษาในบทความถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน"