การวิเคราะห์องค์ประกอบของความรู้เกี่ยวกับการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครู วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

ผู้แต่ง

  • ถนอมรัตน์ ชูหนู สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
  • ธนินทร์ รัตนโอฬาร สาขาวิชาวิชาครุศาสตร์อุตสาหกรรม คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
  • ปริยาภรณ์ ตั้งคุณานันต์ สาขาวิชาวิชาครุศาสตร์อุตสาหกรรม คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

คำสำคัญ:

การวางแผนการวิจัยในชั้นเรียน, การเก็บรวบรวมข้อมูล, การคำนวณแปลผลสถิติพื้นฐาน, การคำนวณแปลผลสถิติอ้างอิง และการนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล, การสะท้อนผลกลับการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบของความรู้เกี่ยวกับการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)และเพื่อประเมินความรู้เกี่ยวกับการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสังกัด สอศ. กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ครูวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสังกัด สอศ.จำนวน 335 คนปี การศึกษา 2554 โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน  เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม ที่มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.99 วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์องค์ประกอบของความรู้เกี่ยวกับการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน โดยการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจ (Exploratory Factor Analysis: EFA) ด้วยวิธีการวิเคราะห์องค์ประกอบหลัก (Principal Component Analysis) และการหมุนแกนองค์ประกอบแบบตั้งฉาก (Orthogonal Rotation) ด้วยวิธีแวริแมกซ์ (Varimax   Rotation)

ผลการวิจัยพบว่า องค์ประกอบของความรู้เกี่ยวกับการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี สอศ. ประกอบด้วย 5  องค์ประกอบ คือ 1) การวางแผนการวิจัยในชั้นเรียน  2) การเก็บรวบรวมข้อมูล 3 ) การคำนวณ แปลผล สถิติพื้นฐาน 4) การคำนวณ แปลผล สถิติอ้างอิง และการนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล 5) การสะท้อนผลกลับ การเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน ซึ่งทั้ง 5 องค์ประกอบ สามารถอธิบายองค์ประกอบของความรู้เกี่ยวกับการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสังกัดสอศ. ได้ร้อยละ 73.046 และผลการประเมินความรู้เกี่ยวกับการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครู พบว่า อันดับ 1 คือ การคำนวณ แปลผล สถิติพื้นฐาน (x̄= 3.808  s = .652 ) อยู่ในระดับมาก รองลงมา คือ การวางแผนการวิจัยในชั้นเรียน (x̄= 3.660  s = .593) อยู่ในระดับมาก  อันดับ 3 คือ การเก็บรวบรวมข้อมูล (x̄= 3.497  s = .689)  อยู่ในระดับปานกลาง อันดับ 4 คือ การสะท้อนผลกลับ การเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน (x̄= 3.480  s = .611) อยู่ในระดับปานกลาง  อันดับ 5 คือ การคำนวณ แปลผล สถิติอ้างอิง และการนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล  (x̄=  3.465  s = .620) อยู่ในระดับปานกลาง  

เอกสารอ้างอิง

[1] สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. 2542. แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติฉบับที่ 8. กรุงเทพฯ : ดอกหญ้าวิชาการ.

[2] สุวิมล ว่องวานิช. 2554. การวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน.พิมพ์ครั้งที่ 15. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

[3] สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. 2546. หลักการ ทฤษฎี และนโยบายการปฏิรูปการอาชีวศึกษา. (ม.ป.ท.)

[4] สรชัย พิศาลบุตร. 2553. การทำวิจัยในชั้นเรียน เรียนรู้กันได้ภายใน 5 ชั่วโมง. กรุงเทพฯ : วิทยพัฒน์.

[5] พิชิต ฤทธิ์จรูญ. 2553. การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ปฏิบัติการวิจัยในชั้นเรียน. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

[6] ณัฎฐธิกา เล่าสัม. 2546. การเปรียบเทียบปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความสำเร็จในการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูในเขตกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการวิจัยการศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

[7] ศราวุธ คำแก้ว. 2546. การวิเคราะห์องค์ประกอบสมรรถภาพครูนักวิจัยในชั้นเรียน. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาการวิจัยและพัฒนาการศึกษามหาวิทยาลัยนเรศวร.

[8] วีรพงษ์ แสงทอง. 2553. ความรู้และเจตคติของพนักงานซ่อมบำรุงเครื่องจักรที่มีต่อการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ในโรงงานผลิตชิ้นส่วยอะไหล่รถยนต์ จังหวัดสมุทรปราการ. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม, 9(2), น.104 – 112.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2015-04-30

รูปแบบการอ้างอิง

ชูหนู ถ., รัตนโอฬาร ธ., & ตั้งคุณานันต์ ป. (2015). การวิเคราะห์องค์ประกอบของความรู้เกี่ยวกับการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครู วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม, 14(1), 99–106. สืบค้น จาก https://ph01.tci-thaijo.org/index.php/JIE/article/view/123828

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย