การวิเคราะห์องค์ประกอบของกระบวนการจัดการความรู้ ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบของกระบวนการจัดการความรู้ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กลุ่มตัวอย่าง คือ บุคลากรของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ส่วนกลาง กรุงเทพมหานคร ที่ปฏิบัติหน้าที่ในปี 2556 ได้จากการสุ่มแบบแบ่งชั้น จำนวน 350 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามมีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 53 ข้อ มีค่าความตรงเชิงเนื้อหาระหว่าง 0.60 - 1.00 และค่าความเชื่อถือได้ เท่ากับ 0.98 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจ (Exploratory Factor Analysis: EFA) ด้วยวิธีการวิเคราะห์องค์ประกอบหลัก (Principal Component Analysis) และหมุนแกนองค์ประกอบแบบตั้งฉาก (Orthogonal Rotation) ด้วยวิธีแวริแมกซ์ (Varimax Rotation)
ผลการวิจัยพบว่า องค์ประกอบของกระบวนการจัดการความรู้ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มีจำนวน 10 องค์ประกอบ เรียงตามลำดับความสำคัญจากมากไปหาน้อย ได้แก่ 1) การเรียนรู้ การประยุกต์ใช้ความรู้ การพัฒนาและริเริ่มสร้างสรรค์ความรู้ใหม่ 2) การยกย่องชมเชยและให้รางวัล 3) การจัดเก็บความรู้ให้เป็นระบบ 4) การประมวลความรู้และการกลั่นกรองความรู้ 5) การถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนความรู้ 6) การวัดและประเมินผลความรู้ 7) การเพิ่มพูนความรู้ 8) การคัดเลือกความรู้ 9) การกำหนดเป้าหมายความรู้ 10) การสร้างและแสวงหาความรู้ และองค์ประกอบทั้ง 10 องค์ประกอบ สามารถอธิบายองค์ประกอบของกระบวนการจัดการความรู้ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้ร้อยละ 67.131
เอกสารอ้างอิง
[2] ชัชวาลย์ วงษ์ประเสริฐ. 2548. การจัดการความรู้ในองค์กรธุรกิจ. กรุงเทพฯ : ธรรมกมลการพิมพ์.
[3] สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. 2544. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 1-9 : สรุปและรวบรวมแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตั้งแต่ฉบับที่ 1-9. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการ
[4] จิระเสกข์ ตรีเมธสุนทรและณัฐวุฒิ โรจน์นิรุตติกุล. 2552. การศึกษาเปรียบเทียบการพัฒนาองค์ความรู้ในสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐและเอกชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม, 8(2), น.53-67.
[5] สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์. 2554. รายงานประจำปี 2553 องค์กรแห่งการเรียนรู้มุ่งสู่คุณภาพระดับโลก. กรุงเทพฯ : ดาวฤกษ์คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด.
[6] บดินทร์ วิจารณ์. 2547. การจัดการความรู้สู่ปัญญาปฏิบัติ. กรุงเทพฯ : เอ็กซเปอร์เน็ท.
[7] น้ำทิพย์ วิภาวิน. 2547. การจัดการความรู้กับคลังความรู้. กรุงเทพฯ : เอสอาร์ พริ้นติ้ง แมสโปรดักส์.
[8] ภราดร จินดาวงศ์. 2549. การจัดการความรู้. กรุงเทพฯ : ซีดับบลิว พริ้นติ้ง.
[9] ไพโรจน์ ชลารักษ์. 2551. การจัดการความรู้ : สังกัปทางทฤษฎี. นครปฐม : เพรชเกษม พริ้นติ้ง กรุ๊ป.
[10] ชำนาญ เหล่ารักผล. 2553. การพัฒนายุทธศาสตร์การจัดการความรู้สำหรับโรงเรียนในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย. ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
[11] สุภาวดี เจริญเศรษฐมห. 2553. การพัฒนารูปแบบการจัดการความรู้ขององค์กรอาชีพท้องถิ่น. ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
[12] ชนิดา สุทธิคณะ. 2553. ความสัมพันธ์ระหว่างกระบวนการจัดการความรู้กับผลสัมฤทธิ์การดำเนินงานขององค์การ : กรณีศึกษากรมคุมประพฤติ. ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล.
[13] Joseph F.Hair, Jr.; et al. 1995. Multivariate data analysis with readings. 4th ed. Englewood Cliffs, N.J. : Prentice Hall.
[14] พรรณี ลีกิจวัฒนะ. 2553. วิธีวิจัยทางการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ: คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง.
[15] กัลยา วานิชย์บัญชา. 2552. การวิเคราะห์ข้อมูลหลายตัวแปร. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
"ข้อคิดเห็น เนื้อหา รวมทั้งการใช้ภาษาในบทความถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน"