การศึกษาตัวแปรในการออกแบบเพื่อสร้างสภาวะน่าสบายในเรือนไทยประเพณีในภาคกลาง

ผู้แต่ง

  • พิทาน ทองศาโรจน์ ภาควิชานวัตกรรมอาคาร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

คำสำคัญ:

ค่าสภาวะน่าสบายของเรือนไทยภาคกลาง, ตัวแปรในการออกแบบเรือนไทยภาคกลาง, แนวคิดของทรงเรือนไทยของฤทัย ใจจงรัก, เรือนไทยประเพณีภาคกลาง

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาเกี่ยวกับ การหาค่าสภาวะน่าสบายที่เกิดขึ้นภายในเรือนไทยทางภาคกลางของประเทศไทย ซึ่งคำนวณมาจากเรือนไทยตัวอย่าง ที่สร้างมาจากตัวแปรทางการออกแบบที่มีพื้นฐานจากแนวคิดของฤทัย ใจจงรัก ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ในเรื่องของการนำสมการทางคณิตศาสตร์มาคำนวณสัดส่วนขนาดเรือนไทย และ แนวคิดการกำหนดองค์ประกอบของเรือนไทย กลุ่มตัวแปรเหล่านั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 10 กลุ่มได้แก่ 1) รูปแบบ และสัดสวนเรือน 2) การวางอาคาร 3) การใช้วัสดุตัวเรือน 4) การวางพื้นเรือน 5) ลักษณะรูปแบบของผนังเรือน 6) ลักษณะหน้าจั่ว 7) ลักษณะวัสดุมุง 8) ลักษณะชนิดฝ้าเพดาน 9) การวางทิศทางอาคาร และ10) สภาพแวดล้อมของที่ตั้งเรือน ในงานวิจัยนี้ เรือนไทยตัวอย่างสามารถถูกสร้างขึ้นจากแนวคิดข้างต้น ทำให้เกิดเรือนไทยตัวอย่างได้ทั้งหมด 72 แบบ  จากนั้นนำลักษณะเรือนไทยที่ได้ในแต่ละแบบมาทำการสร้างเป็นแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ EDSL Tas Engineering เพื่อคำนวณหาข้อมูล 2 ค่า ได้แก่ ค่าความชื้น และค่าอุณหภูมิ ที่เกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่ส่วนห้องนอน ส่วนชาน และส่วนใต้ถุนเรือน ภายใต้เงื่อนไขของเวลาทั้งหมด 365 วัน หรือ 1 ปี โดยแบ่งการเก็บข้อมูลเป็นช่วงๆ ตามฤดูกาล  จากนั้นนำข้อมูลทั้งสองค่าที่ได้มาคำนวณเป็นผลลัพธ์ของสภาวะน่าสบาย โดยมีเขตน่าสบายของกิจชัย จิตขจรวานิช เป็นกรอบในการพิจารณา

ผลการวิจัยพบว่าเรือนไทยตามชุดองค์ประกอบที่ 14 18 และ 31 สามารถทำให้เกิดค่าสภาวะน่าสบายมากที่สุดที่ในฤดูร้อนอยู่ที่ 4.48% ในฤดูฝนอยู่ที่ 10.82% และในฤดูหนาวอยู่ที่ 3.47% และมีค่า 6.25% สำหรับช่วงเวลาตลอดทั้งปี และ มีค่าสภาวะน่าสบายน้อยที่สุดในชุดองค์ประกอบที่ 6 ซึ่งมีค่าสภาวะน่าสบายในฤดูร้อนอยู่ที่ 0.05% ในฤดูฝนอยู่ที่ 0.10% และในฤดูหนาวอยู่ที่ 0.15% และมีค่า 0.20% สำหรับช่วงเวลาตลอดทั้งปี และตัวแปรของการออกแบบเรือนไทยในเรื่องของลักษณะสัดส่วนของเรือนไทย การใส่ฝ้าเพดานภายใน การกำหนดวัสดุของหลังคา การวางทิศทางของเรือน และการกำหนดที่ตั้งของเรือน ต่างก็มีผลต่อการเกิดค่าสภาวะในเรือนไทยจากค่ามากไปน้อยตามลำดับ  

เอกสารอ้างอิง

[1] สุนทร บุญญาธิการ. 2542. เทคนิคการออกแบบบ้านประหยัดพลังงานเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

[2] Fanger, O.P. 1967. Thermal Comfort. New York: McGraw-Hill.

[3] ชญาณิน จิตรานุเคราะห์. 2550. การวิเคราะห์สาระสำคัญของเทคโนโลยีเรือนไทยภาคกลาง. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาสถาปัตยกรรม จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย.
Chitranukron, C. 2007. The Analysis of Essential Factors in Traditional Thai Horse Technology Central Thailand. Doctor of Philosophy in Architecture. Chulalongkorn University.

[4] อรศิริ ปาณินท์. 2539. บ้านและหมู่บ้านพื้นถิ่น. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์.

[5] สมภพ ภิรมย์. 2545. บ้านไทยภาคกลาง. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: องค์การค้าของคุรุสภา.

[6] พิทาน ทองศาโรจน์ และอรศิริ ปาณินท์. 2557. รูปแบบ และองค์ประกอบบ้านเรือนไทยประเพณีภาคกลางที่เปลี่ยนแปลงใน ปัจจุบัน.วารสารวิชาการคณะ สถาปัตยกรรมศาสตร์ สจล., 16(18), น. 35-48.
Thongsarojana,P. & Panin, O. 2014. Changes of Forms and Elements of the Central Thai Traditional House in Present Day. Journal of Faculty of Architecture KMITL, 16(18), p. 35-48.

[7] ฤทัย ใจจงรัก. 2539. เรือนไทยเดิม. กรุงเทพฯ: สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์.

[8] พิทาน ทองศาโรจน์ และอรศิริ ปาณินท์. 2557. การศึกษารูปแบบและสัดส่วน และแนวทางการสร้างสัดส่วนเรือนไทยประเพณี ภาคกลางแบบอื่นๆจากสัดส่วนมาตรฐานของรองศาสตราจารย์ฤทัย ใจจงรัก. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม,13 (2), น. 111-118.
Thongsarojana,P. & Panin, O. 2014. A Study of How to Find and Create Proportion of Additional Central Thai Traditional Houses from Standard Proportion Base on Associate Professor Rutai Jaijonruk. Journal of Industrial Education, 13(2), p.111-118.

[9] พิทาน ทองศาโรจน์ 2558. การศึกษาพารามิเตอร์ในการออกแบบเรือนไทยประเพณีในภาคกลางเพื่อสภาวะน่า สบาย.วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาสิ่ง แวดล้อมสรรค์สร้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
Thongsarojana, P. 2015.Parametric Study for Designing Traditional Thai House in Central Region for Thermal Comfort. Doctor of Philosophy in Built Environment. Kasetsart University.

[10] Environmental Design Solutions Limited. 2013. Tas Engineering. Retrieved February 25, 2014, from https://www.edsl.net/main/Software/Designer.aspx

[11] กิจชัย จิตขจรวานิช. 2547. สภาวะน่าสบายและการปรับตัวเพื่ออยู่แบบสบายของคนในท้องถิ่น.รายงานเสนอสถาบันวิจัยและ พัฒนา มหาวิทยาลัยศิลปากร 2547. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร.
Jikhajornwanich, K. 2004. Thermal comfort and Adaptability to Living for Local People. Report presentation for R&D. Silpakorn University 2004. Bangkok. Silpakorn University press.

[12] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน. (ม.ป.ป.). เอกสารการออกแบบประหยัดพลังงาน ภาคอาคารธุรกิจ [ออนไลน์}. เข้าถึงได้จาก https://www2.dede.go.th/bhrd/old/web_display/websemple/Commercial(PDF)/Bay38BuildingFeatures.pdf (วันที่ค้น ข้อมูล: 10 กุมพาพันธ์ 2558).
Department of Alternative Energy Development and Efficiency. (n.d.). Manual for Energy Design in Commercial Building. [Online]. Retrieved from https://www2.dede.go.th/bhrd/old/web_display/websemple/Commercial(PDF)/Bay38BuildingFeatures.pdf (February 10, 2015).

[13] UK Meteorological Office. 2010. National Meteorological Library and Archive Fact sheet 6 – The Beaufort Scale (Online) Retrieved from https://www.metoffice.gov.uk/media/pdf/4/4/Fact_SheSh_No._6_-_Beaufort_Scale.pdf (February 1, 2015).

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2015-08-31

รูปแบบการอ้างอิง

ทองศาโรจน์ พ. (2015). การศึกษาตัวแปรในการออกแบบเพื่อสร้างสภาวะน่าสบายในเรือนไทยประเพณีในภาคกลาง. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม, 14(2), 275–282. สืบค้น จาก https://ph01.tci-thaijo.org/index.php/JIE/article/view/122386

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย