การออกแบบพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นสำหรับการเรียนรู้แบบสหวิทยาการจังหวัดฉะเชิงเทรา
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาการออกแบบพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นสำหรับการเรียนรู้แบบสหวิทยาการ จังหวัดฉะเชิงเทรา มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการของพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นในจังหวัดฉะเชิงเทรา 2) พัฒนาแนวทางการออกแบบพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นสำหรับการเรียนรู้แบบสหวิทยาการโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา และ 3) ศึกษาผลของการพัฒนาการออกแบบพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นสำหรับการเรียนรู้แบบสหวิทยาการโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา มีการดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึกจากปราชญ์ชุมชน นักวิชาการผู้บริหารองค์กรและการสนทนากลุ่มตัวแทนประชากรในพื้นที่ แล้วนำมาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพปัญหาและความต้องการของพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นจังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่า ปัญหามีความใกล้เคียงกับพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นอื่น คือ งบประมาณในการบริหารจัดการมีจำกัด ขาดเจ้าหน้าที่และบุคลากรดูแลโดยตรง การจัดแสดงวัตถุรวมถึงการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นยังไม่น่าสนใจ ส่วนความต้องการของพิพิธภัณฑ์ คือ การมีส่วนร่วมของบุคคลในชุมชนในด้านของการประชาสัมพันธ์ การจัดกิจกรรมให้น่าสนใจ การปลูกผังให้เด็กและเยาวชนเกิดความรักในชุมชน
2. ผลการศึกษาแนวทางการออกแบบพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นสำหรับการเรียนรู้แบบสหวิทยาการโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยการประชุม เสวนา สัมภาษณ์ผู้นำชุมชน ปราชญ์ชุมชนและชาวบ้าน และสนทนากลุ่มกับผู้เกี่ยวข้องแล้วนำผลมาวิเคราะห์พบว่า การออกแบบพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเชิงโครงสร้างของระบบบริหารจัดการ ควรเชื่อมโยงกับแหล่งเรียนรู้ 3 แห่งเป็นหลัก คือ ตลาดคลองสวน ศูนย์การเรียนรู้บอนสีฯ ศูนย์การเรียนรู้ปราชญ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพียงโดยมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการร่วมกัน ซึ่งต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของชุมชนส่วนการออกแบบนิทรรศการเพื่อการเรียนรู้แบ่งเป็น 2 พื้นที่ คือการจัดแสดงวัตถุแบบถาวร และการจัดพื้นที่แสดงวัตถุแบบชั่วคราว โดยเน้นการออกแบบกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ให้สัมพันธ์กับสื่อแสดงพร้อมทั้งเอกสารองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง
3. ผลของการพัฒนาการออกแบบพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นพบว่ามีความเหมาะสมในการสื่อความหมายในรูปของการออกแบบนิทรรศการเพื่อการเรียนรู้ผ่านการสาธิต การแสดง การฝึกอบรมให้ความรู้แก่นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป โดยความร่วมมือจากชุมชน นอกจากนี้การออกแบบเชิงระบบบริหารจัดการ ยังได้รับการส่งเสริม สนับสนุนและเกิดความร่วมมือระหว่างชุมชนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานภายนอก
Article Details
"ข้อคิดเห็น เนื้อหา รวมทั้งการใช้ภาษาในบทความถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน"
References
[2] สายันต์ ไพรชาญจิตร์.2558.กระบวนการพิพิธภัณฑ์บริบาล. วารสารอยุธยาศึกษาปีที่ 7 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2558.
[3] ประภัสสร โพธิ์ศรีทอง. 2549. พิพิธภัณฑ์ไทยกับการไล่ตามความฝัน. จุลสารหอจดหมายเหตุธรรมศาสตร์ ฉบับที่ 9 (มิถุนายน 2548 – พฤษภาคม 2549).
[4] ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์.2556. ข้อมูลพิพิธภัณฑ์จังหวัดฉะเชิงเทรา. (เอกสารอัดสำเนา).
[5] ปณิตา สระ วาสี, ชีวสิทธิ์ บุณยเกียรติ.2557. คนทำพิพิธภัณฑ์. กรุงเทพฯ : ศูนย์มานุษย์วิทยาสิรินธร (องค์การ มหาชน).
[6] สุภางค์ จันทวานิช. 2547.การวิเคราะห์ข้อมูลในการวิจัยเชิงคุณภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย.
[7] กาญจนา แก้วเทพ และคณะ. 2553. การบริหารจัดการวัฒนธรรมพื้นบ้านแบบมีส่วนร่วมด้วยนวัตกรรมการวิจัย. กรุงเทพฯ : ภาพพิมพ์.
[8] Johnson, Julie I. 2012. Museums, Leadership, and Transfer: An Inquiry into Organizational Supports for Learning Leadership. [On-line]. Retrieved October 3, 2012. from https://etd.ohiolink.edu/view.cgi?acc_num=antioch1347914892
[9] นวลลออ ทินานนท์. 2544. รายงานการวิจัยการศึกษางานหัตถกรรมพื้นบ้านในจังหวัดนครนายก. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร.