การพัฒนาบทเรียนอีเลิร์นนิ่งแบบผสมผสาน ร่วมกับการจัดแผนการสอนแบบฐานสมรรถนะ ในรายวิชา การบริหารและการบริการอินเทอร์เน็ตสำหรับนักศึกษาสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา
คำสำคัญ:
แผนการสอนแบบฐานสมรรถนะ, บทเรียนอีเลิร์นนิ่งแบบผสมผสาน, ทักษะการปฏิบัติการบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพบทเรียนอีเลิร์นนิ่งแบบผสมผสาน ร่วมกับการจัดแผน การสอนแบบฐานสมรรถนะ ในรายวิชาการบริหารและการบริการอินเทอร์เน็ต สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน และหลังเรียนด้วยบทเรียนอีเลิร์นนิ่งแบบผสมผสาน ร่วมกับการจัดแผนการสอนแบบฐานสมรรถนะ 3) ศึกษาผลฝึกทักษะการปฏิบัติการหลังจากเรียนด้วยบทเรียนอีเลิร์นนิ่งแบบผสมผสาน ร่วมกับการจัดแผนการสอนแบบฐานสมรรถนะ 4) ศึกษาความพึงพอใจของ นักศึกษาหลังจากเรียนด้วยบทเรียนอีเลิร์นนิ่งแบบผสมผสาน ร่วมกับการจัดแผนการสอนแบบฐานสมรรถนะ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการทดลองในครั้งนี้ คือ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาการบริหารและการบริการอินเทอร์เน็ต ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย จำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย บทเรียนอีเลิร์นนิ่ง แบบผสมผสาน ร่วมกับการจัดแผนการสอนแบบฐานสมรรถนะ ที่ผ่านการประเมินคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษา แบบทดสอบวัดทักษะการปฏิบัติการ และแบบวัดความพึงพอใจของนักศึกษาบทเรียน
ผลการวิจัยพบว่า
- บทเรียนอีเลิร์นนิ่งแบบผสมผสาน ร่วมกับการจัดแผนการสอนแบบฐานสมรรถนะ ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์คือ 84.08/80.08
- ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
- ผลฝึกทักษะการปฏิบัติการ หลังจากเรียนด้วยบทเรียนอีเลิร์นนิ่งแบบผสมผสาน ร่วมกับการจัดแผนการสอนแบบฐานสมรรถนะ โดยรวมมีค่าร้อยละ 88.67 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือร้อยละ 80
- ความพึงพอใจของนักศึกษาบทเรียนอีเลิร์นนิ่งแบบผสมผสาน อยู่ในระดับมากที่สุด
เอกสารอ้างอิง
[2] Monchai Tiantong.2002. E-learning : Learning solutions for the next education. Journal Of Technical Education Development King Monkut's University Of Technology North Bangkok, 14(13), p. 58-65.
[3] Monchai Tiantong. 2011. Courseware design and development for CAI. Bangkok: King mongkut's university of technology north bangkok.
[4] Bachelor of Education Program in Computer (Course Improvement 2555) Faculty of Science and Technology. Nakhon Pathom Rajabhat University.
[5] Krich Sinthanakul et al. 2012. The Development of Training Course for Preparing Blended Learning Teaching Plan for Computer Curriculum Teacher.Technical Education Journal King Mongkut’s University of Technology North Bangkok, 4(1), p. 28-35.
[6] Wiman Jaidee. and Monchai Tiantong. 2011. A Conceptual Framework of Blended Learning Model between Collaborative Problem Based Learning with Scaffoldings System and Web-Based Instruction. The 7th National Conference on Computing and Information Technology, p. 272-277.
[7] Settawoot Molanil. et al. 2016. The Blended Learning on C Programming for Grade 9 in Debsirin School. Journal of Industrial Education, 15(2), p. 10-17
[8] Panuwat Srichailard. 2013. The development of blended learning on maintenance and assembling computerslesson for information technology and communication program students. Veridian E-Journal Silpakorn University, 6(1), p. 303-314.
[9] Ploypilin Sriumdee. 2013. The effects of blended learning by using problem solving learning activities of nformation technology subject on problem solving skills and learning achievement of mathayomsuksa 2 students, Princess Sirindhorn’s college. Veridian E-Journal Silpakorn, 6(2), p. 582-596.
[10] Ripong Kantiwanich. 2013. The effects of blended learning with demonstration technique for practice training on building animation of computer graphic subject for mathayomsuksa 3 students at Princess Sirindhorn's College. Veridian E-Journal Silpakorn, 6(2), p. 642-654.
[11] Kanokwan RuangSan. 2016. The 2nd National Conference on Technology and Innovation Management 2016. The Development of the Learning Process MIAP with ClassStart Entitled Designing Template Power Point with Photoshop CS5. Mahasarakham.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
"ข้อคิดเห็น เนื้อหา รวมทั้งการใช้ภาษาในบทความถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน"