แนวทางการจัดพื้นที่ภายในห้องเรียนเด็กปฐมวัยที่ส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการจัดพื้นที่ภายในห้องเรียนและแนวทางการจัดพื้นที่ภายในห้องเรียนเด็กปฐมวัยที่ส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กลุ่มเป้าหมายโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนบ้านกระทุ่มราย โรงเรียนบ้านหนองเดิ่น และโรงเรียนหนองตะคลอง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม แบบประเมิน แบบสังเกต และแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าเฉลี่ย () ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยที่มีผลต่อการจัดพื้นที่ภายในห้องเรียนเด็กปฐมวัยที่ส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญประกอบด้วย กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ กิจกรรมเสรีหรือเล่นตามมุม และกิจกรรมเกมการศึกษา การจัดวางผังภายในห้องเรียนแบ่งพื้นที่ 4 ส่วนคือ ส่วนที่ 1 พื้นที่ครู ส่วนที่ 2 พื้นที่เก็บของส่วนตัวเด็ก ส่วนที่ 3 พื้นที่สำหรับกิจกรรมเสรีหรือเล่นตามมุมที่จัดวางมุมประสบการณ์และส่วนที่ 4 ที่ว่างกลางห้องเป็นพื้นที่นั่งเรียน นอน รับประทานอาหาร กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ และลักษณะเครื่องเรือนควรมีนํ้าหนักเบาเลือกใช้วัสดุที่ปลอดภัยต่อเด็กทำจากวัสดุไม้อัดปิดผิวลามิเนตหลากสีสัน ไม้ธรรมชาติ และวัสดุที่มีในท้องถิ่นใช้ประกอบกิจกรรมการเรียนรู้ โต๊ะเรียนขนาดและรูปแบบที่เหมาะสมเคลื่อนย้ายได้สะดวก และ 2) แนวทางการจัดพื้นที่ภายในห้องเรียนเด็กปฐมวัยที่ส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญออกแบบให้มีผนังกั้นแบ่งพื้นที่กลางห้องลักษณะปรับเลื่อนเปิดและปิดได้เพื่อรองรับกิจกรรมการเรียนของชั้นเรียน 2 ระดับ คือ อนุบาล 2 และอนุบาล 3 การกั้นห้องไม่เน้นปิดกั้นเสียงแต่เป็นการปิดมุมมองในบางกิจกรรม พื้นที่ภายในห้องทั้ง 2 ระดับชั้น การจัดวางคล้ายกันคือมีพื้นที่โล่งตอนกลางห้องโดยพื้นที่ มีพื้นที่มุมประสบการณ์ของกิจกรรมเสรีหรือเล่นตามมุมเป็นพื้นที่สำคัญที่สุดกับการเรียนส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
Article Details
เอกสารอ้างอิง
Ministry of Education. (1999). National Education Act B.E. 2542 and Revision (Second Revision) B.E. 2545. Bangkok: Kurusapa Ladprao Printing Press
Pinyoanuntapong, S. (2002). Environment for Early Childhood. Bangkok: Curriculum and Instruction Department, Srinakharinwirot University; Prasanmitr
Vorakitphokatorn, S. and Maungmasl, R. (2010). The Manual of Ayatana 6 Development in Early Childhood. Bangkok: National Institute for Child and Family Development, Mahidol University
Chan-aim, S. (1998). General Psychology. Bangkok: Thai Wattana Panit Press
Suankaew, P. (1993). Development Psychology and Early Childhood Care. Bangkok: Duangkamol
Khammanee, T. (1999). Learning Management Based on Student-Centered Learning: CIPPA MODEL. Journal of Education Studies. Vol. 27, No. 3, pp. 1-17
Ra-Ngubtook, W. (1999). The Lesson Plan of a Student-Centered Approach. Bangkok: L.T. Press
Sattayatham, P. (2008). Child Mental Health. 7th Edition. Bangkok: Chulalongkorn University Press
Chitsing, S. (2007). A Physical Interior Environment Design Guideline for Pre-School Babies’ Home in Bangkok and Metropolitan Area. A Thesis for the Degree of Master of Architecture, Interior Architecture, King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang
The Office of the National Primary Education Commission. (1998). The Study of Classroom Arrangement within Media and Playing Center for Pre-Elementary Education. Bangkok: Ministry of Education
Thaithani, P. (2007). Nature of the Learners. Nakhon Ratchasima: Faculty of Education, Nakhon Ratchasima Rajabhat University
Thorarit, K. (2008). Environmental Interior Design of Art School for Early Childhood in Commercial Building. A Thesis for the Degree of Master of Architecture, Interior Architecture, King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang