การประยุกต์ใช้ระบบตรวจจับวัตถุบนสายพานการผลิตเพื่อเพิ่มผลผลิตในกระบวนการคัดแยกผลิตภัณฑ์นมกล่อง
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้ศึกษาระบบตรวจจับวัตถุบนสายพานและนำไปประยุกต์ใช้ในการคัดแยกผลิตภัณฑ์นม โดยทำการทดลองและเก็บข้อมูลการคัดแยกของเครื่องจักรและคำนวณค่าพลังงานที่ใช้ ผลการศึกษาระบบตรวจจับวัตถุบนสายพานที่มีความยาว 5 เมตร พร้อมระบบการติดตั้งกล้องอุตสาหกรรมและระบบเซนเซอร์มีหน้าที่เป็นอินพุต โดยเมื่อมีชิ้นงานเคลื่อนที่ผ่านมา กล้องและเซนเซอร์จะเป็นตัวตรวจจับและส่งสัญญาณไปยังพีแอลซีเพื่อประมวลผลว่าถูกต้องหรือไม่ หลังจากนั้นสามารถส่งสัญญาณเอาต์พุต เพื่อให้ทำการส่งผลิตภัณฑ์นมออกไปสู่แผนกบรรจุภัณฑ์ต่อไป โดยมีการเขียนโปรแกรมให้ตรวจจับกล่องนม 3 ชนิด หรือ 3 สี นำไปการประยุกต์ใช้กับระบบการผลิตในอุตสาหกรรมนม การศึกษาประสิทธิภาพของสายพานพบว่า ความเร็วของสายพานที่แตกต่างกัน 3 ระดับ ได้แก่ 0.2 เมตรต่อวินาที สามารถทำการตรวจจับและคัดแยกกล่องนมได้จำนวน 1,200 กล่อง ความเร็ว 0.4 เมตรต่อวินาที สามารถทำการตรวจจับและคัดแยกกล่องนมได้จำนวน 2,400 กล่อง และ ความเร็ว 0.6 เมตรต่อวินาที สามารถทำการตรวจจับและคัดแยกกล่องนมได้จำนวน 3,600 กล่อง ภายใน 1 ชั่วโมง ตามลำดับ จากการทดสอบนี้ได้ไปประยุกต์ใช้ในการเพิ่มผลผลิตของกระบวนการคัดแยกผลิตภัณฑ์นมกล่องในอุตสาหกรรมนมที่เป็นกรณีศึกษาย่านนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งทางบริษัทกรณีศึกษาให้ความคิดเห็นว่าหากมีการปรับความเร็วให้สายพานมีค่าความเร็วที่มากกว่า 0.6 เมตรต่อวินาที สามารถเพิ่มผลผลิตด้านการคัดแยกชนิดของนมและลดต้นทุนการผลิตได้โดยทางบริษัทมุ่งเป้าหมายของอัตราการคัดแยกที่ 6,000 กล่องต่อชั่วโมง
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
- เนื้อหาต้นฉบับที่ปรากฏในวารสารเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน ทั้งนี้ไม่รวมความผิดพลาดอันเกิดจากเทคนิคการพิมพ์
- ลิขสิทธิ์ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ ซายน์เทค มรภ.ภูเก็ต ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของวารสารวิชาการ ซายน์เทค มรภ.ภูเก็ต
เอกสารอ้างอิง
(1) สุรธันย์ ปาละพรพิสุทธิ์. (2560). LEAN 4.0 Manufacturing. กรุงเทพฯ: ไอ พี อาร์ ไอ.
(2) บริษัท เซาท์เทิร์นแดรี่ จำกัด. (2567). ประเภทของนมพร้อมดื่ม. All Seasons Dairy. [ออนไลน์], สืบค้นจาก https://allseasondairy.com/th/blog (5 เมษายน 2567).
(3) สุนทร ก้องสินธุ, อนุชิต สิงห์จันทร์, สมนึก ดําานุ้ย, และณัฐวิชช์ สุขสง. (2561). การออกแบบชุดทดลองคัดแยกสีอัตโนมัติบนระบบสายพานลําเลียง โดยโมดูลแยกสีอาดูโน. วารสารวิจัยและนวัตกรรม สถาบันการอาชีวศึกษากรุงเทพมหานคร, 1(2), 56–68.
(4) ณัฐพงศ์ แพน้อย, อภิรักษ์ คงประเวช, เดชาธร เหล็กอยู่มะดัน, และปฏิพล ทรัพย์ทวีปัญญา. (2564). การสร้างต้นแบบระบบสายพานลำเลียงสำหรับเครื่องบรรจุน้ำดื่มอัตโนมัติโดยใช้พีแอลซี. Engineering Transactions, 24(1), 28–36.
(5) Siva Vardhan, D. S. V., & Narayan, Y. S. (2015). Development of an automatic monitoring and control system for the objects on the conveyor belt. In 2015 International Conference on Man and Machine Interfacing (MAMI), 1–6.
(6) เดชฤทธิ์ มณีธรรม. (2559). คัมภีร์การใช้งานหุ่นยนต์. ซีเอ็ดยูเคชั่น.
(7) เดชฤทธิ์ มณีธรรม. (2564). คัมภีร์การใช้งาน Machine Vision ควบคุมด้วย LabVIEW และ Vision Builder. ซีเอ็ดยูเคชั่น.
(8) Hornberg, A. (2006). Handbook of machine vision. Wiley-VCH.
(9) Gaikwad, A., Raut, Y., Desale, J., Palhe, A., Shelar, G., & Pawar, S. (2018). Design and development of automated conveyor system for material handling. IOSR Journal of Mechanical and Civil Engineering (IOSR-JMCE), 15(2), 31–34.
(10) Husár, J., Hrehova, S., Trojanowski, P., & Brillinger, M. (2024). Optimizing the simulation of conveyor systems through digital shadow integration to increase assembly process efficiency. Technologia I Automatyzacja Montażu, 123(1), 16–22.
(11) Li, M., Lu, C., Yan, X., He, R., & Zhao, X. (2024). Enhanced detection of foreign objects on molybdenum conveyor belt based on anchor-free image recognition. Applied Sciences, 14(16), 7061.
(12) Kim, H., Yang, Y., Kim, Y., Jang, D.-W., Choi, D., Park, K., Chung, S., & Kim, D. (2025). Effect of droplet contamination on camera lens surfaces: Degradation of image quality and object detection performance. Applied Sciences, 15(5), 2690.
(13) Zeng, F., & Xie, Z. (2018). Coordinated control system of multi-level belt conveyors for promotion of energy efficiency based on IoT technology. In 5th International Conference on Information Science and Control Engineering (ICISCE), 675–679.