การวิเคราะห์โปรไฟล์ความหยาบผิวจากกระบวนการขัดที่ส่งผลต่อกระบวนการสึกหรอ ตามทฤษฎีของ Bearing Area Curve

ผู้แต่ง

  • สุธรรม ศิวาวุธ Department of Industrial Engineering, Faculty of Engineering, Rajamangala University of Technology Krungthep https://orcid.org/0009-0003-0366-3387
  • Yupin Supachoke Department of Engineering, Faculty of Engineering, Rajamangala University of Technology Krungthep
  • ปริญญา ศรีสัตยกุล Department of Industrial Engineering, Faculty of Engineering, Rajamangala University of Technology Krungthep https://orcid.org/0000-0002-4868-4654
  • พรทิพท์ คงลำธาร

คำสำคัญ:

Bearing area curve, กระบวนการขัด, ความหยาบผิว , พฤติกรรมการสึกหรอ

บทคัดย่อ

บทความนี้นำเสนอการวิเคราะห์ลักษณะสัณฐานวิทยาของพื้นผิว และพารามิเตอร์ที่เป็นส่วนประกอบของกราฟ bearing area curve (BAC) ซึ่งประกอบไปด้วยพารามิเตอร์ reduced peak height (Rpk), core roughness depth (Rk), reduced valley depth (Rvk), material ratio 1at the peak zone (Mr1) และ material ratio 2 at the valley zone (Mr2) ควบคู่กับพารามิเตอร์ arithmetic mean deviation (Ra) ของเหล็กกล้าเกรด SKD61 ชุบแข็งด้วยระบบสุญญากาศมีความแข็ง 52–55 HRC และขัดผิวชิ้นงานด้วยกระบวนการขัด (Lapping process) ด้วยผงอลูมินาที่แตกต่างกัน 4 ขนาด ได้แก่ 0.05, 0.30, 1.00 และ 3.00 ไมโครเมตร ภายใต้สภาวะใช้น้ำหล่อเย็นแบบน้ำมัน กราฟ BAC ถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์เพื่อเป็นแนวทางการเลือกลักษณะพื้นผิวที่เหมาะสมสำหรับการต้านทานการสึกหรอ ผลลัพธ์จากการวิเคราะห์พบว่าเหล็กกล้าเกรด SKD61 ที่ขัดด้วยผงอลูมินาขนาด 0.30 ไมโครเมตร มีช่วงระยะ run–in สั้น และมีพื้นที่สัมผัสหลักขนาดใหญ่ (พารามิเตอร์ Rk ใหญ่) แรงกระทำต่อพื้นที่จึงมีค่าลดลง ส่งผลให้สามารถต้านทานการสึกหรอมากขึ้น

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

06/30/2024

รูปแบบการอ้างอิง

ศิวาวุธ ส. ., Supachoke, Y., ศรีสัตยกุล ป., & คงลำธาร พ. (2024). การวิเคราะห์โปรไฟล์ความหยาบผิวจากกระบวนการขัดที่ส่งผลต่อกระบวนการสึกหรอ ตามทฤษฎีของ Bearing Area Curve. วารสารเทคโนโลยีการผลิตและการจัดการ, 3(1). สืบค้น จาก https://ph01.tci-thaijo.org/index.php/jMMT/article/view/255665

ฉบับ

ประเภทบทความ

เปิดรับบทความตีพิมพ์ในวารสารเทคโนโลยีการผลิตและการจัดการ