การคัดเลือกและการจัดจำแนกเชื้อราทนร้อนที่ผลิตเอนไซม์เซลลูเลส เพื่อการผลิตเป็นหัวเชื้อปุ๋ยหมัก

Main Article Content

Aree Rittiboon
Marisa Jatupornpipat
Piroonporn Srimongkol

บทคัดย่อ

จุดประสงค์ของงานวิจัยคือทำการคัดเลือกและจัดจำแนกชนิดของเชื้อราที่แยกได้จากดินที่มีกิจกรรมของเอนไซม์เซลลูเลสสูงเพื่อผลิตเป็นหัวเชื้อที่จะใช้หมักปุ๋ยหมัก โดยทำการคัดแยกเชื้อราที่แยกได้จากดิน 39 สายพันธุ์ ได้ทำการคัดเลือกเบื้องต้น โดยการเลี้ยงเชื้อในสภาวะอาหารแข็งที่มีเซลลูโลสเป็นแหล่งคาร์บอนบ่มที่ 45 องศาเซลเซียส ทำการวัดอัตราส่วนของวงใสรอบโคโลนีต่อขนาดของโคโลนี จากนั้นทำการคัดเลือกอีกครั้งในสภาวะอาหารเหลวที่มีเซลลูโลสเป็นแหล่งคาร์บอนและทำการวัดค่ากิจกรรมของเอนไซม์เซลลูเลส พบว่าสายพันธุ์ FA68 ให้ค่ากิจกรรมของเอนไซม์สูงสุดและแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญกับสายพันธุ์อื่นและรองลงมา คือสายพันธุ์ FA50 ให้ค่ากิจกรรมเท่ากับ 0.17 และ 0.13 ยูนิต/มล. ตามลำดับ จากนั้นนำเซื้อราสายพันธุ์ทั้งสองสายพันธุ์ไปทำการเลี้ยงในวัสดุเศษเหลือทางการเกษตรในสภาวะอาหารแข็ง พบว่าสายพันธุ์ FA68 เจริญได้ดีเมื่อทำการบ่มที่ 45 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 7 วันและให้ค่ากิจกรรมของเซลลูเลสที่สูงกว่าค่ากิจกรรมของเอนไซม์ชนิดเดียวกันของสายพันธุ์ FA50 มีค่าเท่ากับ 0.23 และ 0.22 ยูนิต/กรัมสับสเทรต ตามลำดับ เมื่อทำการเลี้ยงเชื้อและศึกษาการเจริญของทั้งสองสายพันธุ์ในข้าวฟ่างเพื่อผลิตเป็นหัวเชื้อปุ๋ยหมัก พบว่าการบ่มที่ 37 องศาเซลเซียส ความชื้นเริ่มต้นร้อยละ 80
พบว่าสายพันธุ์ FA68 และ FA50 ให้อัตราการสร้างสปอร์ได้สูงสุดเท่ากับ 10.27 และ 9.46 ลอคสปอร์/กรัมเมล็ดข้าวฟ่าง หลังจากการบ่ม 6 และ 5 วัน ตามลำดับ และเมื่อทำการจำแนกชนิดของสายพันธุ์ของจุลินทรีย์ พบว่าทั้งสายพันธุ์ FA68 และ FA50 คือ จีนัส Aspergillus

Article Details

How to Cite
Rittiboon, A. ., Jatupornpipat, M. ., & Srimongkol, P. . (2013). การคัดเลือกและการจัดจำแนกเชื้อราทนร้อนที่ผลิตเอนไซม์เซลลูเลส เพื่อการผลิตเป็นหัวเชื้อปุ๋ยหมัก. วารสารวิทยาศาสตร์ มข., 41(4), 1057–1065. สืบค้น จาก https://ph01.tci-thaijo.org/index.php/KKUSciJ/article/view/249214
บท
บทความวิจัย