การปนเปื้อนจุลินทรีย์ในอากาศของห้องปฏิบัติการ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาชนิดและปริมาณจุลินทรีย์ในอากาศซึ่งเป็นสาเหตุโรคภูมิแพ้และการติดเชื้อภายในห้องปฏิบัติการคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ จำนวน 6 ห้องปฏิบัติการ โดยใช้หลักการ settle plate ในการเก็บตัวอย่างจุลินทรีย์ในอากาศเป็นเวลา 4 สัปดาห์ ระหว่างปลายเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2555
แบ่งเป็นวันละ 2 ช่วงเวลา คือ ช่วงเวลาเช้าและช่วงเวลาบ่าย ผลการศึกษาพบว่าปริมาณแบคทีเรียเฉลี่ยในช่วงเช้าของห้องปฏิบัติการ คณะวิทยาศาสตร์ทั้ง 6 ห้อง อยู่ในช่วงระหว่าง 10.1-93.1 CFU/plate/h ปริมาณแบคทีเรียช่วงบ่ายอยู่ระหว่าง 4.9-63.9 CFU/plate/h ส่วนปริมาณเชื้อราในช่วงเช้าอยู่ระหว่าง 32.1-87.0 CFU/plate/h ช่วงบ่ายอยู่ในช่วงระหว่าง 17.1-76.3 CFU/plate/h ทั้งนี้ปริมาณจุลินทรีย์เฉลี่ยในช่วงเวลาเช้าจะสูงกว่าช่วงเวลาบ่ายซึ่งเมื่อเปรียบเทียบปริมาณจุลินทรีย์ที่ได้กับเกณฑ์ดัชนีปนเปื้อนเชื้อจุลชีพในอากาศ (IMA) พบว่าห้องปฏิบัติการทั้ง 6 ห้องของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ มีปริมาณจุลินทรีย์เฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ระดับดีมากถึงแย่มาก พบเชื้อก่อโรคในอากาศทั้ง 6 ชนิด คือ Bacillus sp. มากที่สุด รองลงมา คือ Staphylococcus aureus และ แบคทีเรียแกรมลบรูปแท่ง ตามลำดับ ส่วนเชื้อรา พบ Penicillium sp. มากที่สุด รองลงมาคือ Aspergillus sp. และ Curvularia sp. ตามลำดับ นอกจากนี้ยังพบเชื้อรา Cladosporium sp. ในปริมาณสูง ทําให้ห้องปฏิบัติการเสี่ยงต่อการทําให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ พบความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณจุลินทรีย์ของห้องปฏิบัติการทั้ง 6 ห้องมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p<0.05) ทั้งปริมาณแบคทีเรียและเชื้อรา ส่วนปริมาณจุลินทรีย์ในอากาศในแต่ละช่วงเวลา คือ เช้าและบ่าย พบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p<0.05) เช่นกัน
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.