การพัฒนาบทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้สะเต็มศึกษา เรื่องการพัฒนาโปรแกรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาบทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้สะเต็มศึกษา เรื่องการพัฒนาโปรแกรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ และเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างกลุ่มเรียนด้วยบทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตผ่านกิจกรรมการเรียนรู้สะเต็มศึกษา เรื่องการพัฒนาโปรแกรม กับกลุ่มเรียนปกติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนเทพา จังหวัดสงขลา ได้มาจากการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 30 คน โดยกลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มเรียนด้วยบทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้สะเต็มศึกษา และกลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มเรียนปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย บทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตผ่านกิจกรรมการเรียนรู้สะเต็มศึกษา เรื่องการพัฒนาโปรแกรม แบบประเมินคุณภาพของบทเรียนและแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งมีค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.67-1.00 มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.27-0.80 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.20-0.53 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.82 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที (t-test) แบบ independent sample
ผลการวิจัยพบว่าบทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตผ่านกิจกรรมการเรียนรู้สะเต็มศึกษา เรื่องการพัฒนาโปรแกรม มีคุณภาพโดยรวมอยู่ในระดับดีมาก ( = 4.54, S = 0.54) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่ามีคุณภาพด้านเนื้อหาอยู่ในระดับดีมาก (
= 4.58, S = 0.58) และคุณภาพด้านเทคนิคการผลิตสื่ออยู่ในระดับดี (
= 4.48, S = 0.50) มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 82.60/80.15 และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตผ่านกิจกรรมการเรียนรู้สะเต็มศึกษา สูงกว่ากลุ่มที่เรียนแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details
"ข้อคิดเห็น เนื้อหา รวมทั้งการใช้ภาษาในบทความถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน"
References
[2] ทวีศักดิ์ กออนันตกูล. 2545. นโยบาย e-Education. กรุงเทพฯ: ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ.
[3] ถนอมพร เลาหจรัสแสง. 2544. การสอนบนเว็บ (Web-Based Instruction) นวัตกรรมเพื่อคุณภาพการเรียนการสอน. วารสาร ศึกษาศาสตร์สาร. 28(1) น. 87-94.
[4] อภิสิทธิ์ ธงไชย และคณะ. 2555. สรุปการบรรยายพิเศษ เรื่อง Science, Technology, Engineering and Mathematics Education : Preparing students for the 21st Century. ค้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2557, จาก https://designtechnology.ipst.ac.th/uploads/STEMeducation.pdf
[5] ฝ่ายวิชาการโรงเรียนเทพา. 2557. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ.[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://www.thepha.ac.th. (วันที่ค้นข้อมูล: 5 มีนาคม 2557).
[6] อภิสิทธิ์ ธงไชย. 2556. เทคโนโลยีและวิศวกรรมคืออะไรในสะเต็มศึกษา. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี (สสวท.), 42(185), น.35-37.
[7] Seel, B. B. and Richey, R. C. 1994. Instructional Technology: The Definition and Domains of the field. Washington, D.C.: Association for Educational Communications and Technology.
[8] วรนุช ตุนทกิจ. 2553. การตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรู้. ค้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2557, จาก https://www.km.skn.go.th/? name=research&file=readresearch&id=5
[9] ไพโรจน์ ตีรณธนากุล ไพบูลย์ เกียรติโกมลและเสกสรร แย้มพินิจ. 2546. การออกแบบและการผลิตบทเรียนคอมพิวเตอร์การ สอน. กรุงเทพฯ:ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพฯ.
[10] ชัยยงค์ พรหมวงศ์. และคณะ. 2542.ระบบสื่อสารการสอน. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
[11] Bloom, B.S. 1956. Taxonomy of Educationalobjectives. New York: Longman.
[12] มนต์ชัย เทียนทอง. 2548. การออกแบบและพัฒนาคอร์สแวร์สำหรับบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน. กรุงเทพฯ: ศูนย์ผลิตตำรา เรียนสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ.
[13] จิรภาภรณ์ วงศ์กาญจนฉัตร. 2557. บทเรียนผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เรื่องพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 สำหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาการ ศึกษาวิทยาศาสตร์ (คอมพิวเตอร์) คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง.
Wongkanjanachut, J. 2014. Web-based Instruction on Act on computer-Related Offences be 2550. Thesis in Science, Science Education (Computer), Industrial Education, King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang.
[14] จีรนันท์ ปัญญาเหลือ ฉันทนา วิริยเวชกุล และอรรถพร ฤทธิเกิด. 2558. บทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เรื่อง เรือ มอันเร.วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม, 14(1), น. 191-197.
Panyalue, J., Viriyavejakul, C. and Ridhikerd, A. 2015. Web-Base Instruction Based on Reamaunre Dance. Journal of Industrial Education. 14(1), p. 191-197.
[15] Ausubel, D. P., Novak, J. D. and Hanesian, H. 1978. Educational Psychology: A Cognitive View. 2nd ed. New York:Holt, Rinehart and Winston.
[16] พลศักดิ์ แสงพรมศรี. 2558. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ และ เจตคติต่อการเรียนวิชาเคมี ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษากับแบบปกติ.วิทยานิพนธ์ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเคมีศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
Saengpromsri, P. 2015. Comparisons of learning achievement, and attitude towards chemistry learning for Matthayomsueksa 5 student between STEM education and conventional methods. Thesis in Science, Chemistry Education, Mahasarakham University.