ศึกษาและพัฒนาเครื่องประดับโลหะผสมในอุตสาหกรรมเครื่องประดับไทย เพื่อการส่งออก
Main Article Content
Abstract
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาแนวทางการพัฒนาเครื่องประดับโลหะผสมในอุตสาหกรรม เครื่องประดับไทยเพื่อการส่งออก 2) ออกแบบเครื่องประดับโลหะผสมในระบบอุตสาหกรรมเครื่องประดับไทย เพื่อการส่งออกด้านคุณภาพให้สามารถแข่งขันไปยังตลาดระดับบน โดยการออกแบบให้สอดคล้องกับ ความต้องการของตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกา และ 3) เพื่อประเมินความพึงพอใจรูปแบบเครื่องประดับ โลหะผสมจากผู้จำหน่ายสินค้างานเครื่องประดับในตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกา
วิธีงานดำเนินงานวิจัยได้แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1) ศึกษาแนวทางการพัฒนาเครื่องประดับโลหะ ผสม เครื่องมีอที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบบันทึกและแบบสอบถามผู้ประกอบการด้านการตลาด ในการส่งออกเครื่องประดับในอุตสาหกรรมเครื่องประดับไทย จำนวน 3 แห่ง 2) ออกแบบเครื่องประดับ โลหะผสม เครื่องมือที่ใข้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบบันทึกและแบบสอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิต และออกแบบเครื่องประดับในอุตสาหกรรมเครื่องประดับไทย จำนวน 3 ท่าน และประเมินแบบร่างการออกแบบ โดยกลุ่มตัวอย่างด้านแนวทางการพัฒนาและด้านการออกแบบ จำนวน 3 ท่าน 3) ประเมินความพึงพอใจ ผู้จำหน่ายสินค้างานเครื่องประดับในตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกา ในงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทย ครั้งที่ 49 จำนวน 100 คน โดยใช้เครื่องมือแบบสอบถามความพึงพอใจ 4) การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation)
ผลการวิจัย ด้านแนวทางการพัฒนาเครื่องประดับโลหะผสมในอุตสาหกรรมเครื่องประดับไทย เพื่อการส่งออก พบว่า ตลาดสหรัฐอเมริกาและยุโรปนั้น มีความต้องการสินค้าที่แตกต่างกัน โดยตลาดสหรัฐ อเมริกาต้องการสินค้าเครื่องประดับที่มีรูปแบบคลาสสิค เรียบหรู ไม่ซับซ้อน ส่วนตลาดยุโรป ต้องการความหลากหลายตามกระแสแฟชั่น สามารถสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบ ในด้านการออกแบบ พบว่า เครื่องประดับ โลหะผสมที่ได้รับความนิยม และควรที่จะนำมาพัฒนาการออกแบบมากที่สุด คือ 1) สแตนเลส เป็นโลหะที่เหมาะกับการ ฉลุลวดลาย เพื่อให้เห็นความมันวาวของเนื้อโลหะ ไม่เหมาะกับงานที่ซับซ้อน และงานที่ใช้ฝังอัญมณีจำนวนมาก 2) ทองเหลือง สามารถใช้กับงานออกแบบที่ซับซ้อน พลิ้วไหว ฝังอัญมณีได้ มีคุณสมบัติยืดหยุ่นและอ่อนตัวได้ดี ปัจจัยสำคัญในด้านคุณภาพที่จะพัฒนาให้สามารถ เช้าสู่ตลาดระดับบนได้นั้น คือ การพัฒนาด้านเทคโนโลยีการผลิต ให้ได้คุณภาพชิ้นงานคงที่ ความพิถีพิถัน ด้านการผลิตและการออกแบบที่สร้างสรรค์ อีกทั้งยังต้องมีความเป็นเอกลักษณ์ในสินค้าเครื่องประดับไทย เพื่อให้แข่งขันกับคู่แข่งสำคัญอย่างเซ่นจีนและอินเดียไต้การประเมินความพึงพอใจรูปแบบเครื่องประดับ โลหะผสมจากผู้จำหน่ายสินค้าเครื่องประดับ ในงานสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ครั้งที่ 49 จำนวน 100 คน มิความพึงพอใจสินค้าเครื่องประดับในระดับความพึงพอใจมาก ค่าเฉลี่ย (x = 3.93)
คำสำคัญ : การพัฒนา, เครื่องประดับโลหะผสม, ตลาดระดับบน, ผู้ประกอบการ
Abstract
The objectives of this research are 1) to study the ways to develop alloy jewelry in Thai jewelry industry for exportation, 2) to design alloy jewelry in Thai jewelry industry for exportation with the quality that can compete in high-end market by designing the jewelry to match European and us market demands, 3) to evaluate the alloy jewelry's design satisfaction of jewelry sellers in European and us market.
The research can be divided into 4 processes 1) to study how to develop alloy jewelry by using tools to gather information which are record and questionnaire from 3 entrepreneurs in Thai jewelry exportation business 2) to design alloy jewelry using information gathering tools which are record and questionnaire from 3 jewelry manufacturing and design experts in Thai jewelry industry and to evaluate the design's draft by 6 representative people in jewelry development and design 3) to evaluate the alloy jewelry's design satisfaction of 100 jewelry sellers in European and us market at 49th Bangkok Gems and Jewelry Fair using information gathering tools 4) to analyze qualitative data using statistical analysis which contains of mean and standard deviation.
Research result indicates that, in developing alloy jewelry in Thai jewelry industry for exportation, European and us markets have different demand in term of products. For US market, the most popular jewelry design is classical, elegant and uncomplicated while European market follows fashion trend and focused on designing creativity. In design process, the most popular types of alloy jewelry which should be developed the the most are 1) stainless which is the suitable metal for perforated work to show its shiny surface whereas it is not suitable for complicated work or work decorated with a large amount of gemstone. 2) brass which can be used in complicated and wavering design setting with gemstone because of its flexibility. The major factors in quality development to compete in high-end market are the development in technology so that the products have consistency in quality, the minuteness in manufacturing and the creativity in design. Moreover, Thai jewelry industry needs to have uniqueness so that it can compete with important rival markets such as Chinese and Indian markets. The satisfaction evaluation in alloy jewelry from 100 jewelry sellers in 49th Bangkok Gems and Jewelry Fair indicates that jewelry sellers have very high satisfaction in jewelry with mean of (x = 3.93).
Keyword : development, alloy jewelry, high-end market, entrepreneur