ชนิดและความชุกชุมของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก กลุ่มกบ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

Main Article Content

อัฉราพรรณ์ คำแก้ว
วุฒิ ทักษิณธรรม
สุพร พลพันธ์

บทคัดย่อ

การศึกษาความหลากชนิดของกบในพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ ทำการเก็บข้อมูลเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 12 เดือน ตั้งแต่ กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 – มกราคม พ.ศ. 2562 จำนวน 3 - 4 วันต่อเดือน โดยการเดินสำรวจทั้งกลางวันและกลางคืน ครอบคลุมทุกหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ทั้งสิ้น 3 หน่วย ผลการศึกษาพบกบจำนวน 32 ชนิด จาก 7 วงศ์ 21 สกุล โดยวงศ์ของกบที่พบจำนวนชนิดมากที่สุด คือ วงศ์ Dicroglossidae (8 ชนิด) รองลงมาคือ วงศ์ Ranidae
(7 ชนิด) และวงศ์ที่พบจำนวนชนิดน้อยที่สุด คือ วงศ์ Ceratobatrachidae (1 ชนิด) เมื่อนำข้อมูลจากการสำรวจกบมาคำนวณหาค่าดัชนีความสำคัญทางนิเวศวิทยา (Important Value Index: IVI) ที่แสดงสถานภาพความชุกชุมของกบที่สำรวจพบ พบกบที่มีความชุกชุมมาก/พบเห็นได้ง่ายมาก (Very Common: VC) จำนวน 6 ชนิด กบที่มีความชุกชุม/พบเห็นได้ง่าย (Common: C) จำนวน 3 ชนิด กบที่มีความชุกชุมปานกลาง/พบเห็นไม่ง่ายนัก (Uncommon: U) จำนวน 20 ชนิด และกบที่มีความชุกชุมน้อย/พบเห็นยาก (Rare: R) จำนวน 3 ชนิด และเมื่อพิจารณาสถานภาพด้านการอนุรักษ์ตามการจัดลำดับของ IUCN พบกบที่เป็นชนิดพันธุ์ที่มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ (Vulnerable) จำนวน 1 ชนิด คือ กบท่าสาร (Alcalus thasanae) และกบที่เป็นชนิดพันธุ์ใกล้ถูกคุกคาม (Near Threatened) จำนวน 2 ชนิด คือ กบทูด (Limnonectes blythii) และอึ่งปากขวด (Glyphoglossus molossus)

Article Details

How to Cite
คำแก้ว อ., ทักษิณธรรม ว., & พลพันธ์ ส. (2021). ชนิดและความชุกชุมของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก กลุ่มกบ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์. วารสารวิชาการ ซายน์เทค มรภ.ภูเก็ต, 5(1), 1–11. สืบค้น จาก https://ph01.tci-thaijo.org/index.php/pkruscitech/article/view/241681
บท
บทความวิจัย

References

วีรยุทธ์ เลาหะจินดา. (2552). วิทยาสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. (2559). อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง. [ออนไลน์], สืบค้นจาก http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=1071 (23 กุมพาพันธ์ 2559).

บริษัท เอเชีย แล็ป แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด. (2549). รายงานฉบับสมบูรณ์แผนแม่บทการจัดการพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์. รายงานการวิจัย. กรุงเทพฯ: กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช.

ธัญญา จั่นอาจ. (2546). คู่มือสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกในเมืองไทย. กรุงเทพฯ: ด่านสุธาการพิมพ์.

วุฒิ ทักษิณธรรม. (2546). ความหลากชนิดของกบในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี วิทยานิพนธ์ ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต. กรุงเทพ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

Frost, D. R. (2018). Amphibian Species of the World. [Online], accessed from http://research.amnh.org/ herpetology/amphibia/index.php (13 November 2018).

Inger, R. F. (1966). The systematics and Zoogeography of the Amphibian of Borneo. Chicago: Fild Museum of Natural History.

Taylor, E. H. (1962). The Amphibian fauna of Thailand. The University of Kansas science bulletin. 43, 265-599.

ประทีป มีวัฒนา. (2554). เอกสารบรรยายวิชาความหลากหลายทางชีวภาพ. กรุงเทพฯ: สาขาวิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.

Matsui, M., & Nabhitabhata, J. (2006). A new species of Amolops from Thailand (Amphibia, Anura, Ranidae). Zoological Science, 23, 727–732.

วุฒิ ทักษิณธรรม. (2553). การเปรียบเทียบความหลากชนิดกบและการเลือกใช้ถิ่นอาศัยในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และพื้นที่เกษตรกรรมใกล้เคียง. วารสารสัตว์ป่าเมืองไทย, 17(1), 104 - 123.

Konowalik, A., Najbar, A., Konowalik, K., Dylewski, L., Frydlewicz, M., & Kisiel, P. (2019). Amphibians in an urban environment: a case study from a central European city (Wrocław, Poland). Urban Ecosystems, 23, 235–243.

IUCN, 2020. The IUCN Red List of Threatened Species. Version (2020). [Online], accessed from https://www.iucnredlist.org (2 May 2018).