การนำฉนวนกันความร้อนเหลือทิ้งประยุกต์เป็นไส้กรองเครื่องฟอกอากาศ

Main Article Content

กมลชัย ยงประพัฒน์
นิดา ชัยมูล
มณีรัตน์ องค์วรรณดี

บทคัดย่อ

     ในปี 2560 ประเทศไทยผลิตขยะอิเล็กทรอนิกส์สูงถึง 0.4 ล้านตัน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นตู้เย็นที่หมดสภาพโดยมีการคัดแยกชิ้นส่วนที่มูลค่าไปจำหน่าย ในขณะที่ฉนวนกันความร้อนโฟมพียูปริมาณกว่า 20,000 ลบ.ม. ถูกทิ้งในบ่อขยะของชุมชนหรือถูกลักลอบเผาทิ้ง งานวิจัยนี้ต้องการเพิ่มมูลค่าขยะโฟมพียูด้วยการใช้เป็นไส้กรองเครื่องฟอกอากาศ โดยออกแบบและสร้างเครื่องฟอกอากาศแบบเคลื่อนย้ายได้ที่ใช้ไส้กรองโฟมพียูจากฉนวนกันความร้อนเพื่อดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5) โครงของเครื่องฟอกอากาศทำจากอะลูมิเนียมขนาด 36x36x78 ลบ.ซม. หุ้มด้วยแผ่นเหล็กเรียบ ติดตั้งพัดลมหอยโข่ง ขนาด 220 วัตต์ มีกริลเลอร์เพื่อกระจายลม ส่วนไส้กรองทำจากเฟรมอะลูมิเนียมขนาด 31x5x44 ลบ.ซม. ทดสอบโฟมพียู 3 รูปแบบ ได้แก่ แบบเส้น แบบลูกเต๋า และแบบก้อน วัดสมรรถนะของเครื่องฟอกด้วยค่าอัตราการส่งอากาศที่ถูกฟอกต่อหน่วยเวลา (CADR) สำหรับกำจัดฝุ่น PM2.5 โดยจุดธูปในห้องทดสอบ 8 ลบ.ม. ให้ได้ความเข้มข้นเริ่มต้นประมาณ 250 มคก./ลบ.ม. คำนวณค่า CADR จากข้อมูลการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้น PM2.5 เป็นเวลา 1.5 ชม. ด้วยสมการสมดุลมวลของฝุ่นในห้องทดสอบและใช้การวิเคราะห์ถดถอยแบบไม่เป็นเชิงเส้น  ผลการทดสอบพบว่า เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาทดสอบระดับฝุ่นลดลงเหลือประมาณ 3-43 มคก./ลบ.ม. เครื่องฟอกอากาศมีค่า CADR ได้ดังนี้ ไส้กรองโฟมพียูรูปแบบเส้น 14.3, แบบลูกเต๋า 18.6 และแบบก้อน 21.3 ลบ.ม./ชม. โดยไส้กรองแบบก้อนให้ค่า CADR ใกล้เคียงเครื่องฟอกอากาศเชิงพาณิชย์บางรุ่นที่ใช้ไส้กรอง HEPA กำลังไฟ 35 วัตต์ เมื่อเสริมไส้กรองโฟมพียูด้วยแผ่นกรองหยาบสามารถเพิ่ม CADR ของเครื่องฟอกได้ร้อยละ 50-90 ค่าใช้จ่ายในการสร้างเครื่องฟอกประมาณ 5,000 บาท ทั้งนี้โฟมพียูที่หมดความสามารถในการดักจับฝุ่นแล้วสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในขั้นสุดท้ายด้วยการผสมผลิตอิฐมวลเบา

Article Details

How to Cite
ยงประพัฒน์ ก. ., ชัยมูล น. ., & องค์วรรณดี ม. . (2021). การนำฉนวนกันความร้อนเหลือทิ้งประยุกต์เป็นไส้กรองเครื่องฟอกอากาศ. วิศวกรรมสาร มหาวิทยาลัยนเรศวร, 16(1), 64–72. https://doi.org/10.14456/nuej.2021.7
บท
Research Paper

References

Association of Home Appliance Manufacturers. (2006). Method for measuring the performance of portable household electric room air cleaners (ANSI/AHAM AC-1). (n.p.)

American Society for Testing and Materials. (2009). Standard test method for determining air change in a single zone by means of a tracer gas dilution (ASTM E741). (n.p.)

Godish, T. (1989). Indoor air pollution control. 3. Lewis Publishers.

Kruewan, A., & Ongwandee, M. (2013). Evaluation of portable household and in-car air cleaners for air cleaning potential and ozone-initiated pollutants. Indoor and Built Environment, 22, 659–668.

Thailand Development Research Institute. (2018 August 20). Toxic waste of Thai industrial factories https://tdri.or.th/2018/08/industrial-waste/

Wassanadamrongdee, S. (2015). Situation of Electronic Waste Problems. Journal of Environment, 19(3), 1-18.

WITTHAYA-ANUMAS S. (2017 October). Management Electronic waste In Thailand. https://tdri.or.th/wpcontent/uploads/2018/04/wb133.pdf