การศึกษาพฤติกรรมของผู้ขับรถเร็วบนกระแสจราจร
Main Article Content
Abstract
ในปัจจุบันการขับรถเร็วเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุทางจราจร ทำให้ต้องมีมาตรการตรวจจับความเร็วรถ ดังนั้นผู้วิจัยจึงทำการประเมินความสามารถของการตรวจจับความเร็วรถ และศึกษาพฤติกรรมของผู้ขับรถเร็ว โดยเปรียบเทียบวิธีการตรวจจับความเร็วรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจและวิธีการตรวจวัดความเร็วรถในกระแสจราจรทุกคันบนถนนทางหลวงหมายเลข 1 และถนนมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 รวมทั้งสัมภาษณ์ผู้ขับรถที่มาชำระค่าปรับเฉพาะบนถนนทางหลวง ผลการวิเคราะห์ พบว่า บนถนนทางหลวง มีรถใช้ความเร็วเกิน 120 กม/ชม ทั้งสามช่องจราจร ร้อยละ 16.49 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจจับได้เพียงร้อยละ 6.34 เท่านั้น ขณะที่บนถนนมอเตอร์เวย์ มีรถใช้ความเร็วเกิน 125 กม/ชม ทั้งสี่ช่องจราจร ร้อยละ 6.03 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจจับได้เพียงร้อยละ 2.01 เท่านั้น ผลการวิเคราะห์ลักษณะพฤติกรรมของผู้ขับรถเร็ว พบว่า กลุ่มผู้ขับรถเร็วส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุระหว่าง 26 – 35 ปี ศึกษาระดับปริญญาตรี ประกอบอาชีพ ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ มีรายได้ประมาณ 20,001 – 30,000 บาท ผลจากการสอบถาม พบว่า ร้อยละ 86.35 เป็นผู้ที่เคยถูกตรวจจับความเร็วมาก่อน และผู้ที่ถูกตรวจจับส่วนใหญ่ร้อยละ 35.06 ยังไม่คิดที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการขับรถเร็ว และจากการสัมภาษณ์ยังพบอีกว่าหากใช้เครื่องตรวจจับความเร็วที่สามารถตรวจจับรถที่ขับเร็วกว่าที่กำหนดได้ทุกคันในทุกช่องจราจร ร้อยละ 95 ของผู้ที่มาชำระค่าปรับ จะลดความเร็วในการขับขี่ลง
Study of Speeder Behaviors on Traffic Flow
In recent, speedy driver is a major cause of traffic accidents. The objectives of this study are to evaluate the speed detection system and to study the speeder behaviors. Methods: check the detection rates and interview speeders on highway no.1 and motorway no.9. Results: on highway, the speeds of about 16.49% of all vehicles were over 120 km/hr, in all 3 lanes but policemen could detect only 6.34%. On motorway, the speeds of about 6.03% of all vehicles were over 125 km/hr, in all 4 lanes but policemen could detect only 2.01%. Most of speeders were male, between 26 – 35 years old, hold bachelor degree, had government official career and had salary between 20,001 – 30,000 baht. It was found that 86.35% detected drivers were the drivers who had got penalty before. And about 35.06% detected drivers did not expect to reduce speed. Additionally, about 95% detected drivers would change their driving behaviors if the detection system could be detected all speeders in all lanes.