การกำจัดก๊าซมีเทนทางชีวภาพที่หน้าดินกลบหลุมฝังกลบขยะ
Main Article Content
Abstract
การฝังกลบขยะก่อให้เกิดก๊าซมีเทนซึ่งนับวันจะถูกปลดปล่อยออกมาจากหลุมฝังกลบมากขึ้น ก๊าซมีเทนนั้นเป็นก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน โดยมีศักยภาพในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน 25 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ดังนั้นการกำจัดก๊าซมีเทนจึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำ โดยอาศัยกระบวนการตามธรรมชาติที่เรียกว่ามีเทนออกซิเดชัน ซึ่งแบคทีเรียเมทาโนโทรฟจะเปลี่ยนมีเทนให้กลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ที่หน้าดินกลบหลุมฝังกลบ จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าที่หน้าดินหลุมฝังกลบเกิดมีเทนออกซิเดชันระหว่าง 4.45-306 กรัมต่อตารางเมตรต่อวัน โดยปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเกิดมีเทนออกซิเดชันมีอยู่ 9 ประการ คือ ชนิดดิน พีเอช ความชื้น อุณหภูมิ ความเข้มข้นมีเทน ความเข้มข้นออกซิเจน สัดส่วนออกซิเจนต่อมีเทน สารยับยั้ง และชนิดพืชที่ใช้ปลูกคลุมหลุมฝังกลบ ซึ่งหากการออกแบบหลุมฝังกลบขยะคำนึงถึงการส่งเสริมให้เกิดมีเทนออกซิเดชันที่ชั้นดินกลบหลุมฝังกลบแล้วจะก่อให้เกิดการลดการปลดปล่อยก๊าซมีเทนออกสู่บรรยากาศเป็นผลให้ลดการเกิดภาวะโลกร้อนได้ระดับหนึ่ง
Biological Methane Removal in Landfill Cover Soil
Landfill generates a higher yearly rate of methane gas which is a potent greenhouse gas that contributes global warming. Methane’s global warming potential is greater than carbondioxide 25 times. Then, it is necessary to eliminate methane by biological process called methane oxidation; which methanotroph bacteria could convert methane to carbondioxide at landfill cover soil. Several studies found that methane oxidation rate in landfill cover soil were 4.45-306 g/m2.d. 9 Factors such as soil type, pH, moisture, temperature, CH4 concentration, O2 concentration, O2/CH4, inhibitor and plant type influenced methane oxidation. If designing landfill considered promoting methane oxidation in landfill cover soil, it may decrease methane emission to atmosphere and reduce global warming.