การลดอัตราการเสียของเครื่องล้างจานโดยการวิเคราะห์อายุการใช้งานของอะไหล่ด้วยการคำนวณจากค่าความน่าเชื่อถือของระบบ
DOI: 10.14416/j.ind.tech.2023.03.001
คำสำคัญ:
ค่าความน่าเชื่อถือ, เวลาเฉลี่ยระหว่างความเสียหาย, การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน, การลดอัตราการเสียของเครื่องจักร, การวิเคราะห์สาเหตุและผลกระทบของความชำรุดเสียหายบทคัดย่อ
งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและลดอัตราการเสียของเครื่องล้างจานสำหรับอุตสาหกรรมร้านอาหาร หลังทำการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าเครื่องล้างจานรุ่น A ในบริษัทกรณีศึกษา มีความถี่ในการซ่อมสูงสุด จึงทำการวิเคราะห์และหาสาเหตุการเสียของเครื่องจักร โดยใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์ปัญหา คือ แผนภูมิพาเรโต้ในการจัดลำดับความสำคัญของปัญหา แผนภูมิก้างปลาในการวิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุในแต่ละด้าน และใช้หลักการความน่าเชื่อถือในการกำหนดระยะเวลาการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน จากการวิเคราะห์พบว่า ปัญหาเครื่องจักรไม่ทำงาน เป็นปัญหาหลักของการหยุดชะงักและเกี่ยวเนื่องจากชิ้นส่วนประกอบของเครื่องล้างจาน คือ สวิตซ์เปิดปิด สวิตซ์ทำงาน สวิตซ์ประตู และแม่เหล็กสวิตซ์ประตู การปรับปรุงได้จัดสร้างแผนการบำรุงรักษาเชิงป้องกันของเครื่องล้างจานรุ่น A โดยทำการเปลี่ยนชิ้นส่วนประกอบที่มีผลต่อการหยุดชะงักของเครื่องด้วยความถี่ ดังนี้ สวิตซ์เปิดปิด สวิตซ์ทำงาน สวิตซ์ประตู 1.5 ปีต่อครั้ง และแม่เหล็กสวิตซ์ประตู 2 ครั้งต่อปี ผลหลังจากการปรับปรุง พบว่า ปริมาณงานซ่อมลดลงจากเดิมร้อยละ 37.13 เป็นร้อยละ 29.50 แล ค่าความน่าเชื่อถือของเครื่องล้างจานเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 17 เป็นร้อยละ 56 จากปริมาณเครื่องล้างจานทั้งหมด ส่งผลให้เกิดค่าความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น
เอกสารอ้างอิง
S. Preechawattanasakul, The increasing of the effectiveness of the weaving machine by using preventive maintenance plan, Thesis, King Mongkut’s University of Technology North Bangkok, Thailand, 2007.
B. Lamesawan, Drill bush automobile parts productivity efficiency improvement by using quality control principle: Case study of R&D precision CO., LTD., Thesis, Rajabhat Rajanagarindra University, Thailand. 2013.
P. Sutthiprapapisit, Analysis of error characteristic of the impact by using FMEA in the production of plastic product for consumption, Thesis, Chiang Mai University, Thailand, 2019. (in Thai)
K. Inhun and T. Laosirihongtong, Prioritization of failure modes by using fuzzy analytic hierarchy process (FAHP): A case study electronics parts/components manufacturing process, The Journal of KMUTNB, 2016, 26(3), 427-436. (in Thai)
R. Kanchana, S. Triwanapong and K. Kimapong, Identifying preventive maintenance guidelines for rice combine harvester with application of failure mode and effect analysis technique, Journal of Engineering, RMUTT, 2020, 18(2), 35-45. (in Thai)
E. Kongboonsod, Analysis of reliability and unreliability cost for maintenance management; Case application of continuous process in petrochemical industry, Thesis, Kasetsart University, Thailand, 2010.
K. Jitjoon, Productivity improvement by reliability centered maintenance: A case study of machinery parts factory, Thesis, King Mongkut’s University of Technology North Bangkok, Thailand, 2007.
P. Klomjit and S. Baoulan, Machine availability improvement for automotive parts manufacturing industry by reliability centered maintenance (RCM), Journal of Industrial Technology Ubon Ratchathani Rajabhat University, 2013, 3(6), 94-104. (in Thai)
J. Moubray, Reliability-centered maintenance, 1st Ed., Industrial Press Inc., NY, USA, 1992.
H.R. Zadry, D.A. Saputra, A.B. Tabri, D. Meilani and D. Rahmayanti, Failure modes and effects analysis (FMEA) for evaluation of a sugarcane machine failure, MATEC Web of Conferences (IMIEC 2018), 2018, 204, 01012.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 http://j.cit.kmutnb.ac.th/th/
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ผลงานวิจัยและบทความวิชาการที่ปรากฏในวารสารนี้ เป็นความคิดเห็นอิสระของผู้เขียน ผู้เขียนจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลทางกฎหมายใด ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากบทความนั้น กองบรรณาธิการและคณะจัดทำวารสารฯไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป