การศึกษาเพื่อหาค่าความหนาที่เหมาะสมสำหรับแผ่นพื้นไร้คานคอนกรีตอัดแรงภายหลังชนิดมีคานกว้าง

DOI: 10.14416/j.ind.tech.2021.05.002

ผู้แต่ง

  • พงษ์นรินทร์ จงรักษ์ถาวร
  • สายันต์ ศิริมนตรี
  • ชนะชัย ทองโฉม

คำสำคัญ:

แผ่นพื้นไร้คาน, คอนกรีตอัดแรง, ระบบดึงภายหลังชนิดมีคานกว้าง, ทฤษฎีโครงเสมือน, ความหนาที่เหมาะสม

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้นำเสนอการศึกษาเพื่อหาความหนาที่เหมาะสมสำหรับแผ่นพื้นไร้คานคอนกรีตอัดแรงภายหลังชนิดมีคานกว้าง โดยใช้หลักการหาความเหมาะสมด้วยระเบียบวิธีฟังก์ชันพหุนาม ในการวิเคราะห์โครงสร้างใช้วิธีโครงข้อแข็งเสมือน โดยใช้โปรแกรม ADAPT-PT/RC 2015 ในการช่วยคำนวณ ความกว้างของคานที่ศึกษามี 3 กรณี คือ 1/3  1/4 และ 1/5 ของความกว้างแผ่นพื้น ความยาวช่วงของพื้นในแต่ละกรณีเท่ากับ 15 18 และ 20 เมตร ตามลำดับ  สำหรับน้ำหนักบรรทุกจรจะกำหนดให้แปรเปลี่ยนไปตามประเภทการใช้สอยของอาคาร ได้แก่ ส่วนพักอาศัย ส่วนสำนักงาน และส่วนที่จอดรถ  มีค่าเท่ากับ 200 300 และ 400 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ตามลำดับ โดยมีการพิจารณาน้ำหนักบรรทุกคงที่ ที่นอกเหนือจากน้ำหนักของพื้นเอง 120 และ 300 กิโลกรัมต่อตารางเมตร  จากนั้นนำผลที่ได้จากการออกแบบไปหาฟังก์ชันพหุนาม เพื่อหาค่าความหนาที่เหมาะสมเพื่อเป็นข้อมูลให้วิศวกรสามารถนำไปเป็นแนวทางออกแบบเบื้องต้นและประมาณราคา  จากการศึกษาพบว่าค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (R2) มีค่าเท่ากับ 1.0  และสรุปผลได้ว่า สำหรับส่วนพักอาศัย ส่วนสำนักงาน และส่วนที่จอดรถ กรณีความกว้างของคานเท่ากับ 1/3 ของความกว้างพื้น  อัตราส่วนความยาวช่วงต่อความหนาของพื้นที่เหมาะสม  เท่ากับ 34 32 และ 33 ตามลำดับ กรณีความกว้างของคานเท่ากับ 1/4 ของความกว้างแผ่นพื้น อัตราส่วนความยาวช่วงต่อความหนาของพื้นที่เหมาะสม เท่ากับ 33 31 และ 32  ตามลำดับ กรณีความกว้างของคานเท่ากับ 1/5 ของความกว้างแผ่นพื้น อัตราส่วนความยาวช่วงต่อความหนาของพื้นที่เหมาะสม เท่ากับ 31 29 และ 30

เอกสารอ้างอิง

[1] P.R. Gupta, Post-tensioning manual, 6th Ed., The Post-Tensioning Institute, Phoenix, AZ, USA. 2006, pp.174.
[2] RAM Concept V8i, RAM International., Available: https://www.bentley.com/en/products/product-line/structural-analysis-software/ram-concept (Accessed on 24 May 2021)
[3] CSI SAFE 12, Computers and Structures Inc., Available: https://www.csiamerica.com/ products/safe (Accessed on 24 May 2021)
[4] C. Suchinda, A comparison of post- tensioned concrete flat slabs designing results between 2D equivalent frame method and 3D plate finite element method, The 13th National Convention on Civil Engineering, Proceeding, 2008, Art. No. STR-010. (in Thai)
[5] S. Tongarporn and C. Suchinda, A study to determine optimal thicknesses for post-tension concrete flat slab using 3D plate finite element, The 5th Annual Concrete Conference, Proceeding, 2009, Art. No. STR-7. (in Thai)
[6] W. Sanghitkul, Optimum design of post-tensioned flat plate, Thesis, Chulalongkorn University, Thailand, 1996. (inThai)
[7] A. Teeranupatana, Optimum design of post-tensioned flat plates by the simple method, Thesis, Chulalongkorn University, Thailand, 1999. (in Thai)
[8] ADAPT structural concrete software, ADATP-PT/RC 2015, Available: https://adaptsolutions.files.wordpress.com/2010/01/pt_rc_2015_user_manual_08282015_v1_0_final.pdf (Accessed on 24 May 2021)
[9] ACI 318-08, Building code requirements for structural concrete (ACI 318-08) and Commentary, 2008.
[10] EIT1008-38, Building code requirements for reinforced concrete by the strength design Method, 2015. (in Thai).
[11] Construction materials price index for November 2017, Economic Indices, Ministry of Commerce, 2017. (in Thai)
[12] Labor/operation index for quantities take-off and estimating the appraisal cost for construction work, The Comptroller General’s Department, Ministry of Finance, 2017. (in Thai)

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-05-24

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย (Research article)