การศึกษาพฤติกรรมของผนังอิฐก่อโบราณเสริมด้วย Fiber-Reinforced Polymer (FRP) ภายใต้แรงกระทำทางด้านข้างแบบวัฏจักร

Main Article Content

ชินโชติ บรรจงปรุ
หมิง จิ๋ง

บทคัดย่อ

โบราณสถานในประเทศไทยเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีอารยะธรรมมาช้านาน ส่วนใหญ่จะใช้อิฐเป็นวัสดุก่อสร้างหลักด้วยลักษณะของโครงสร้างเป็นผนังอิฐก่อและไม้ได้คำนึกถึงเรื่องการรับแรงดันด้านข้างหรือแรงสั่นสะเทือนการต้านทานแรงดัดสั่นสะเทือนทางด้านข้างจึงไม่สามารถที่จะต้านทานได้ดีพอทำให้เกิดความชำรุดเสียหายได้ง่าย อันอาจจะนำไปสู่การวิบัติได้ในที่สุด การศึกษาพฤติกรรมการรับแรงสั่นสะเทือนทางด้านข้างผนังอิฐก่อโบราณ โดยเสริม Fiber-Reinforced Polymer (FRP) เพื่อกำหนดความสามารถในการรับแรงดันทางด้านข้าง หรือแรงสั่นสะเทือนในผนังอิฐก่อโบราณได้เพื่อเป็นข้อมูลในการบูรณะซ่อมแซมโบราณสถานหรือในงานที่จะต้องก่อสร้างขึ้นใหม่เพื่อเพิ่มเติมจากของเก่าที่มีอยู่ให้มีความสมบูรณ์โดยทดสอบผนังอิฐก่อโบราณตัวอย่าง จำนวน 4 ตัวอย่าง ขนาด 1.50x1.50x0.60 ม. แบ่งออกเป็นผนังตัวอย่างที่ไม่เสริมวัสดุ FRP จำนวน 1 ตัวอย่าง ผนังตัวอย่างเมื่อเกิดการวิบัติ และซ่อมแซมด้วย FRP จำนวน 1 ตัวอย่าง ผนังตัวอย่างเสริมด้วย FRP ร้อยละ 40 ของพื้นที่ผิวหนัง ในแนวกากบาท 1 ด้าน จำนวน 1 ตัวอย่าง ผนังตัวอย่างเสริมด้วย FRP ร้อยละ 40 ของพื้นที่ผิวผนังเป็นแถบตารางแนวตั้งและแนวนอน 1 ด้าน จำนวน 1 ตัวอย่าง โดยให้แรงกระทำด้านข้างแบบซ้ำไปซ้ำมา จนผนังตัวอย่างไม่สามารถรับแรงกระทำได้อีก ผลการทดสอบดังกล่าวพบว่า ผนังตัวอย่างที่ไม่เสริมวัสดุ FRP สามารถรับแรงกระทำด้านข้างได้สูงสุด 16.00 กิโลนิวตัน ผนังตัวอย่างเมื่อเกิดการวิบัติ และซ่อมแซมด้วย FRP สามารถรับแรงกระทำด้านข้างได้สูงสุด 25.00 กิโลนิวตัน ผนังตัวอย่างเสริมด้วย FRP ร้อยละ 40 ของพื้นที่ผิวผนัง ในแนวกากบาท 1 ด้าน สามารถรับแรงกระทำด้านข้างได้สูงสุด 50.87 กิโลนิวตัน ผนังตัวอย่างเสริมด้วย FRP ร้อยละ 40 ของพื้นที่ผิวผนัง เป็นแถบตารางแนวตั้งและแนวนอน 1 ด้าน สามารถรับแรงกระทำด้านข้างได้สูงสุด 22.61 กิโลนิวตัน จึงสรุปได้ว่า ผนังตัวอย่างเสริมด้วย FRP ร้อยละ 40 ของพื้นที่ผิวผนัง ในแนวกากบาท 1 ด้าน สามารถรับแรงกระทำด้านข้างได้สูงสุด จากผลการวิจัยนี้ทำให้ได้แนวทางในการพัฒนาการรับแรงกระทำด้านข้างแบบซ้ำไปซ้ำมาเสริมด้วย FRP ต่อไป

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
บรรจงปรุ ช. ., & จิ๋ง ห. . (2013). การศึกษาพฤติกรรมของผนังอิฐก่อโบราณเสริมด้วย Fiber-Reinforced Polymer (FRP) ภายใต้แรงกระทำทางด้านข้างแบบวัฏจักร. แนวหน้าวิจัยนวัตกรรมทางวิศวกรรม, 2, 59–68. สืบค้น จาก https://ph01.tci-thaijo.org/index.php/jermutt/article/view/242084
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

สุดชาย พานสุวรรณ, การวิเกราะห์โบราณสถานก่ออิฐในเชิงวิศวกรรม, วิทยานิพนธ์ปริญญาวิศวกรรม

ศาสตร์บัณทิต สาขาวิศวกรรมโยธา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2543.

สมชาติ จึงสิริอารักษ์, การอนุรักษ์อคารโครงสร้างและวัสดุของโบราณสถาน, มหาวิทยาลัยศิปากร,

กรุงเทพฯ, 2540. หน้า 1-103

Miha Tomazevic, "Shear resistance of masonry wale.and Eurocode 6', Materials and Structures(2009), No. 42, Published online, 23 September 2008. pp 889-907.

Hernan Santa Maria, Pablo Alcaino and Carl Luders "EXPERIMENTALRESPONSEOFMASONRY

WALLSEXTERNALLY REINFORCED WITH CARBON FIBER FABRICS', U.S. National Conference on Earthquake Engineering, Proceedings dings ofthe 8th, April 18-22, 2006, San Francisco,California, USA, 2006 Paper No. 1402.

ธรรมชาติ กุลประภา, "การใช้พลาสติกเสริมเส้นใยเเบบต่อเนื่อง(FRP), การอบรมของสมาคมคอนกรีต

แห่งประเทศไทย, รุ่นที่ 2, 29 กรกฎาคม 2552,ห้องประชุม3 ชั้น 3 อาคารวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย, 2552. หน้า 12-26

ชาติชาย ร่มศักดิ์, การศึกษาวิวัฒนาการองค์ประกอบและการใช้ประโยชน์ของดินเพื่อการตั้งถิ่นฐาน

ในเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาสำนักงานโบราณคดและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ 3, พระนครศรือยุธยา, 2539. หน้า 1-210