การผลิตและศึกษาคุณสมบัติแผ่นฉนวนผนังเบาจากเส้นใยชานอ้อยเพื่อใช้ในงานสถาปัตยกรรม

Main Article Content

นิตยา พัดเกาะ

บทคัดย่อ

การทำวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์  เพื่อการผลิตและศึกษาสมบัติแผ่นฉนวนผนังเบาจากเส้นใยชานอ้อยเพื่อใช้ในงานสถาปัตยกรรมที่ใช้เส้นใยชานอ้อยเป็นวัตถุดิบ  และใช้กาวสังเคราะห์ไอโซไซยาเนตเรซิน (pMDI) 10 %  และกาวพอลีแลคติคแอซิด  (PLA) 10 % ทำหน้าที่เป็นสารยึดติด โดยวิธีอัดร้อนที่อุณหภูมิ 120 องศาเซลเซียส ด้วยความดันในการอัด 150 kg/m2 มีความหนาแน่นที่ 400 -600 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และความหนาแผ่น 15 และ 20 มิลลิเมตร 


 


ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า  สมบัติเชิงความร้อนแผ่นฉนวนผนังเบาจากเส้นใยชานอ้อย  จัดเป็นฉนวนความร้อนที่ดีประเภทหนึ่งซึ่งพิจารณาจากค่าการนำความร้อนและความต้านทานความร้อนโดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 0.028 - 0.041 W/m.k และ 0.026 - 0.042 W/m.k และค่าความต้านทานความร้อนโดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง  0.113 - 0.146 m2.k/W  และ 0.112 - 0.151 m2.k/W ตามลำดับ ขึ้นอยู่กับความหนาแน่น  ความหนาแผ่น ปริมาณสารยึดติด และชนิดของสารยึดติด  จากผลการทดสอบสมบัติเชิงกายภาพ และการทดสอบสมบัติเชิงกล  แสดงให้เห็นว่าแผ่นฉนวนผนังเบาจากเส้นใยชานอ้อย ที่ใช้ปริมาณกาวสังเคราะห์ไอโซไซยาเนต  เรซิน (pMDI) และ กาวธรรมชาติพอลีแลคติคแอซิด  (PLA) ที่มีความหนาแน่นที่ 400-600 kg/m สามารถใช้เป็นแผ่นชิ้นไม้อัดชนิดอัดราบ และ วัสดุก่อสร้างได้อีกทางเลือกหนึ่ง ที่มีสมบัติตามมาตรฐาน มอก. 876-2547

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
พัดเกาะ น. . (2015). การผลิตและศึกษาคุณสมบัติแผ่นฉนวนผนังเบาจากเส้นใยชานอ้อยเพื่อใช้ในงานสถาปัตยกรรม. แนวหน้าวิจัยนวัตกรรมทางวิศวกรรม, 2, 11–20. สืบค้น จาก https://ph01.tci-thaijo.org/index.php/jermutt/article/view/242036
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

อำนวย เรืองวารี,ศิริชัย ต่อสกุล และ วารุณี เปรมานนท์, 2555. วารสารวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลธัญบุรี ปีที่ 10 ฉบับที่ 2 เดือนกรกฏาคม - ธันวาคม. กรุงเทพ:เอสทีชี มีเดีย แอนด์ มาเก็ตติ้ง. 49-54

สรชา ไววรกิจ, ผลิตปูนซีเมนต์ธรรมชาติจากขยะเหลือบริโภคและวัสดุเหลือใช้[ออนไลน์].คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.เข้าถึงได้จาก http://www.rmutt.ac.th/?p=35659 (สืบค้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2558)

วชิระ แสงรัศมี, บล็อกประสานน้ำหนักเบาจากเยื่อ กระดาษเหลือทิ้ง[ออนไลน์].คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.เข้าถึงได้จากhttp://www.rmutt.ac.th/?p=35659 (สืบค้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2558)

กิตติศักดิ์ บัวศรี,วรธรรม อุ่นจิตติชัย , 2550 . การ พัฒนาแผ่นฉนวนความร้อนจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร. รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์.สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ร่วมกับสำนักวิจัยและพัฒนาการอาชีวศึกษา.

ประยูร สุรินทร์ , 2544 . การศึกษากระบวนการผลิตและสมบัติของแผ่นฉนวนความร้อนจากชานอ้อย. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต . สาขาวิชาเทคโนโลยีวัสดุ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี .99 หน้า.

ธนัญชัย ปคุณวรกิจ, 2548. การพัฒนาฉนวนอาคารจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร. วิทยานิพนธ์ปริญญาสถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาสถาปัตยกรรมและการผังเมือง,มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 154 หน้า.

วรธรรม อุ่นจิตติชัย,2543. กาวในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์แผ่นไม้ประกอบ. เอกสาร ประกอบการสัมมนาทางวิชาการ. สมาคมวิทยาศาสตร์การเกษตรแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมถ์, วันที่ 12-13 กรกฎาคม 2543.กรุงเทพฯ. 178 หน้า.

สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม. 2547.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแผ่นชิ้นไม้ อัดชนิดอัดราบ, มอก. 876-2547. กระทรวงอุตสาหกรรม. 17 หน้า.

Japanese Standards Association Particleboard, 2003, JIS A 5908-2003 “Japanese Industrial Standard Tokyo. Hohbunsha Co.Ltd. 23 p.

American Society for Testing and Materials, 1990,ASTM D 256 -06a “Standard Test Methods for Impact Resistance of Plastics and Electrical Insulating Materials , In 1990 Annual Book of ASTM Standards , Vol. 08.01, Philadelphia, ASTM. pp. 57-73.

American Society for Testing and Materials, 1999, ASTM D 1037-99 Standard Test Methods for Evaluating Properties of Wood-Base Fiber and Particle Panel Materials, In Annual Book of ASTM Standards, Vol. 04.10, Phiadephia ,ASTM.pp.137-166.

American Society for Testing and Materials. 2010, ASTM C 177-10 Standard Test Method for Steady-State Heat Flux Measurements and Thermal Transmission Properties by Means of the Quarded-Host-Plate Apparatus. In Annual Book of ASTM Standards, MD,U.S.A., Vol. 04.06. pp. 21-32.

American Society for Testing and Materials, 1990, ASTM C 384 -90a Standard Test Method for Impedance and Absorption of Acoustical Materials by the Impedance Tube Method, In Annual Book of ASTM Standard, Vol. 04.06, Phiadephia, ASTM.pp.100-110.