การลดของเสียจากกระบวนการผลิตผ้าเบรกรถยนต์โดยประยุกต์ใช้วิธีการ DMAIC

Main Article Content

วลัยพร เหมโส
ระพี กาญจนะ

บทคัดย่อ

งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตผ้าเบรกรถยนต์ โดยประยุกต์ใช้หลักการ DMAIC ของ ซิกส์ ซิกม่า โดยมุ่งหวังที่จะลดปริมาณของเสียอันเกิดจากปัญหาชิ้นงานร้าวลงร้อยละ 30 ตามนโยบายของบริษัทตัวอย่าง กระบวนการที่เลือกมาศึกษาคือกระบวนการขึ้นรูปชิ้นงานร้อนของผ้าเบรก โมเดล X068 โดยการควบคุมค่าการอัดตัวของชิ้นงาน (Compression) อยู่ที่ระหว่าง 50-100 ไมครอน จะทำให้ระบบการวัดดังกล่าวมีความถูกต้องและความแม่นยำสูงขึ้น โดยขั้นตอนการศึกษาทั้งหมดแบ่งเป็น 5 ขั้นตอน ดังนี้ (1) ขั้นตอนการกำหนดปัญหาที่เกิดขึ้น (Define Phase) โดยได้ทำการศึกษาความสามารถของกระบวนการผลิตผ้าเบรกรถยนต์ (Process Capability Index) (2) ขั้นตอนการวัด (Measure Phase) เพื่อกำหนดหาสาเหตุของปัญหา (3) ขั้นตอนการวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา (Analysis Phase) โดยการวิเคราะห์ทีละสาเหตุทีละปัจจัย (One Factorata Time) (4) ขั้นตอนการปรับปรุงแก้ไขกระบวนการ (Improve Phase) โดยทำการออกแบบการทดลอง (Design of Experiments) แบบ 2[subscript k] Full Factorial เพื่อหาความสัมพันธ์และหาค่าที่เหมาะสมที่สุดของแต่ละปัจจัย และ (5) ขั้นตอนการควบคุมตัวแปรต่างๆ (Control Phase) ได้นำวิธีการทางสถิติ (Statistical Process Control: SPC) มาช่วยในการควบคุมกระบวนการผลิตหลังการปรับปรุงกระบวนการผลิตตามหลักการ DMAIC ของซิกส์ซิกม่าทำให้พบว่าจำนวนของเสียที่เกิดจากชิ้นงานร้าว (Pad Crack) ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตขึ้นรูปร้อน ลดลงจากเดิมร้อยละ 60.37 หรือ 40,461 PPM เหลือเพียงร้อยละ 39.87 ของปริมาณของเสียทั้งหมด หรือคิดเป็น 17,090 PPM ดังนั้นการปรับปรุงครั้งนี้สามารถลดปริมาณของเสียได้ร้อยละ 36.75 ซึ่งตรงกับเป้าหมายของบริษัทที่วางเอาไว้ที่ร้อยละ 30.00

Article Details

How to Cite
เหมโส ว. ., & กาญจนะ ร. . (2013). การลดของเสียจากกระบวนการผลิตผ้าเบรกรถยนต์โดยประยุกต์ใช้วิธีการ DMAIC. แนวหน้าวิจัยนวัตกรรมทางวิศวกรรม, 2, 33–46. สืบค้น จาก https://ph01.tci-thaijo.org/index.php/jermutt/article/view/242082
บท
บทความวิจัย

References

หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ 2553. ข่าวธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

(สอท), [ออนไลน์ เข้าถึงได้จาก http:/ www.bangkokbiznews.com (10 มิถุนายน 2553).

กิตติศักดิ์ พลอยพาณิชเจริญ, 2542. การวิเคราะห์ระบบการวัด. พิมพ์ครั้งที่ . กรุงเทพมหานคร สมาคม

ส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น).

พงศ์ สกุลคลานุวัฒน์, 2551. การถดของเสียแขนจับหัวอ่านด้วยวิธีการซิกซ์ ชิกม่า. การประชุมวิชาการข่ายงานวิศวกรรมอุตสาหการ.

วสันต์พุกผาสุข,2550.การลดของเสียจากกระบวนการชุบโครเมี่ยม โดยประยุกต์วิธีการชิกซ์ซิกม่ากรณีศึกษาบริษัทในอุตสาหกรรมชุบโครเมี่ยม.ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการคณะวิศวกรรมศาสตร์,สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้พระนครเหนือ.

T.N. Goh. 2002. Six sigma quality management,Journal of Quality Engineering 18(5): 403-410. 14.

Nicholas Roth, 2010. Process improvement for printing operations through the DMAIC Lean Six Sigma approach: A case study from Northwest Ohio, USA, Journal of Lean Six Sigma, Vol. 1 Iss: 2, pp.119 - 133.

Sameer Kumar and Michael Sosnoski, 2009. Using DMAIC Six Sigma to systematically improve shop floor production quality and cost, Journal of Prod uctivity and Performance Management Vol.58 No.3.

Wichai Chattinnawat, 2008. Methodology of DMAIC with Why-Why Analysis in a Hierarchical Decision Procedure: A Case Study of Quality Improvement of Polarization Maintain and absorptionReducing (PANDA) Fiber Connectors, Journal of Industrial Engineering, ICMIT 2008.

J.P.C. Tong and F. Tsung, 2004. A DMAIC approach to printed circuit board quality improvement,Article of Manufacturing Technology, 23(7):523-531.

Clairton A. Siebra, Paulo H.R. Costa and AndreI N Santos, 2009. Improving the Handsets Network Test Process via DMAIC Concepts, Research of CIn/SIDI-Samsung Laboratory,8248/91.

Wang Zhiying and Sun Jing, 2006. Application of DMAIC on Service Improvement of Bank

Counter, Service Systems and Service Management, 2006 International Conference on Vol.1:726-731.