การวัดสมรรถนะของแผนการชักตัวอย่างแบบต่อเนื่องระดับเดียว สำหรับสายการผลิตระยะสั้น

ผู้แต่ง

  • ธิดาเดียว มยุรีสวรรค์ ภาควิชาสถิติ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

คำสำคัญ:

การวัดสมรรถนะ, แผนการชักตัวอย่างแบบต่อเนื่องระดับเดียว, สายการผลิตระยะสั้น

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้ได้เปรียบเทียบสมรรถนะของแผนการชักตัวอย่างแบบต่อเนื่องจำนวน 2 แผนคือ แผนการชักตัวอย่าง CSP-C (generalized CSP-C) และแผนการชักตัวอย่าง MCSP-C (modified CSP-C) ทำการเปรียบเทียบ สมรรถนะโดยใช้ค่าสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่ถูกตรวจสอบโดยเฉลี่ย (average fraction inspected: AFI) และค่าคุณภาพ ผ่านออกโดยเฉลี่ย (average outgoing quality: AOQ) ด้วยวิธีการจำลองการตรวจสอบสายการผลิตโดยใช้โปรแกรม ภาษา C และโปรแกรม R ที่ระดับต่าง ๆ ของค่าพารามิเตอร์จำนวน 5 ค่าได้แก่ ค่าความยาวสายการผลิต (L) เท่ากับ 21 ระดับ ค่าสัดส่วนผลิตภัณฑ์บกพร่องของสายการผลิต (p) เท่ากับ 7 ระดับ ค่าจำนวนหน่วยผลิตภัณฑ์ดีที่ด้องตรวจ พบติดต่อกันในช่วงการตรวจสอบแบบ 100% (i) เท่ากับ 2 ระดับ ค่าอัตราการส่วนในการชักผลิตภัณฑ์ขึ้นมาตรวจสอบ (f) เท่ากับ 2 ระดับ ค่าจำนวนหน่วยผลิตกัณฑ์บกพร่องที่ยอมรับได้ในช่วงการตรวจสอบแบบอัตราส่วน (c) เท่ากับ 2 ระดับ ค่าจำนวนหน่วยผลิตกัณฑ์ดีที่ยอมรับได้ค่อนพบผลิตกัณฑ์บกพร่อง c หน่วยในช่วงการตรวจสอบแบบอัตราส่วน (m=i) ของแผนการชักตัวอย่าง MCSP-C ผลการศึกษาพบว่า ค่า AFI ของ MCSP-C จะตํ่า กว่า CSP-C กรณีที่p มีค่าตํ่า    (p= 0.005, 0.01, 0.015, 0.02) ในทุกระดับค่า L,i,f และ กรณีที่p มีค่าสูง (p=0.025, 0.03, 0.035) พบว่าเมื่อช่วงของ L สั้น ค่า AFI ของ MCSP-C จะตํ่ากว่า CSP-C แต่เมื่อช่วงของ L ยาว ค่า AFI ของ MCSP-C จะสูงกว่า CSP-C เล็กน้อย ผลการศึกษาค่า AOQ พบว่าค่า AOQ ของ CSP-C ตํ่ากว่า MCSP-C กรณีที่p มีค่าต่ำ (p= 0.005, 0.01, 0.015, 0.02) ในทุกระดับค่า L, i, f และ c สวนกรณีที่ p มีค่าสูง (p=0.025, 0.03, 0.035) พบวา หากช่วงของ L สั้น ค่า AOQ ของ CSP-C จะต่ำกว่า MCSP-C หากช่วงของ L ยาว ค่า AOQ ของ CSP-C จะสูงกว่า MCSP-C 

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2017-06-01

ฉบับ

ประเภทบทความ

Research Articles