การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์และแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แบบยั่งยืนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรณีศึกษา สำนักงานเขตบางแค

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร โดยศึกษาปริมาณและที่มาของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสำนักงานเขตบางแค กรุงเทพมหานคร และนำผลที่ได้ไปวิเคราะห์หาแนวทางในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของกิจกรรมในองค์กร โดยใช้หลักการพัฒนาแบบยั่งยืน ดำเนินการวิจัยโดยใช้แบบฟอร์มตามแนวทางการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กรขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน) และแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง ประชากรที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ เจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องในแต่ละฝ่ายของสำนักงานเขตบางแค โดยสัมภาษณ์ทุกคน จำนวน 643 คน ผลการศึกษาพบว่าปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสำนักงานเขตบางแคเท่ากับ 4,224.91 ton CO2e ต่อปี ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมประเภทที่ 1 2 และ 3 เป็น 702.12, 306.31 และ 3,216.48 ton CO2e ต่อปี กิจกรรมที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณมากที่สุดได้แก่ การการเดินทางไป-กลับของบุคลากรเท่ากับ 1,617.63 ton CO2e ต่อปี คิดเป็นร้อยละ 38.29 รองลงมาเป็นการขนส่งขยะไปกำจัดเท่ากับ 1,008.50 ton CO2e ต่อปี อันดับสามคือการเผาไหม้จากยานพาหนะเคลื่อนที่ เท่ากับ 623.56 ton CO2e ต่อปี อันดับสี่คือ ปริมาณขยะที่นำไปฝังกลบ เท่ากับ 581.90 ton CO2e ต่อปี อันดับที่ห้า คือ การใช้ไฟฟ้า เท่ากับ 306.31 ton CO2e ต่อปี ซึ่งจากการศึกษาได้เสนอแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแบบยั่งยืน โดยพิจารณา 4 มิติ คือ 1) ด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การจัดหารถรับ-ส่งข้าราชการและลูกจ้าง การส่งเสริมให้มีการลดปริมาณมูลฝอยโดยการคัดแยก การนำกลับไปใช้ประโยชน์ การวางแผนเส้นทางการขนขยะเพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงในการขนส่ง การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า 2) ด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ การวางแผนงบประมาณในด้านต่างๆ ให้เหมาะสม มีการจัดสรรตามลำดับความสำคัญ ริเริ่มโครงการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว โดยนำหลักเศรษฐศาสตร์มาประยุกต์ใช้ 3) ด้านสังคม ได้แก่ การให้ความรู้และการสร้างแรงจูงใจในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และ 4) ด้านธรรมาภิบาล ได้แก่ ผู้บริหารต้องให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การดำเนินการ การส่งเสริม การประสาน และการสนับสนุนโครงการหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม