การสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันโดยประยุกต์ใช้กลยุทธ์ซิกซ์ ซิกมา ผ่านกระบวนการบริหารเชิงกลยุทธ์ กรณีศึกษาของโรงงานประกอบชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ

Main Article Content

ชาญชัย กระแสร์
ดำรงเกียรติ รัตนอมรพิน
กรกฎ เหมสถาปัตย์
ณรงค์พนธ์ บุญทรงไพศาล

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีการแข่งขันที่รุนแรงด้านความจุ ความเร็วและต้นทุนต่อหน่วย ส่งผลให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนต้องปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยการรักษาระดับคุณภาพและการลดต้นทุนจากการทิ้งงานเสีย งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ คือ การเพิ่มอัตราการผลิตผลดีของทั้งกระบวนการ (Overall Yield) โดยประยุกต์ใช้กลยุทธ์ซิกซ์ ซิกมา ผ่านกระบวนการบริหารกลยุทธ์ เริ่มจากศึกษาปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับธุรกิจ การวิเคราะห์ความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ โดยเริ่มจากประเมินสภาพแวดล้อมภายนอก สภาพแวดล้อมภายใน วิเคราะห์กลยุทธ์ทางเลือก กำหนดกลยุทธ์ระดับปฏิบัติการ การนำกลยุทธ์ซิกซ์ ซิกมาไปปฏิบัติและการเฝ้าติดตามควบคุมกลยุทธ์ ซึ่ง ซิกซ์ ซิกมาประกอบด้วย 5 ขั้นตอนหลัก คือ Define, Measure, Analysis, Improve, Control โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1) กำหนดปัญหา โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่มียอดการผลิตและการทิ้งของเสียสูงสุด 5 อันดับแรก แล้วคำนวณมูลค่าสูญเสียต่อเดือนเทียบกับเป้าหมายและกำหนดแผนการปฏิบัติ 2) การประเมินระบบการวัด โดยประเมินระบบการวัดของผลิตภัณฑ์ที่เลือก 5 อันดับแรก 3) วิเคราะห์สาเหตุตามหลัก 3G (Gemba, Gembutsu, Genjitsu) และการเลือกตัวแปรหลักที่เข้ากระบวนการ (Key Process Input Variable) และสร้างสมมิตฐาน (Hypothesis) เพื่อพิสูจน์ตัวแปรหลัก 4) การแก้ไขปัญหา โดยการใช้การออกแบบการทดลอง (Design of Experiments) เพื่อปรับค่าที่เหมาะสมของแต่ละตัวแปร  5) การควบคุม โดยควบคุมค่าของตัวแปรให้เป็นไปตามเป้าหมายและสร้างเป็นมาตรฐานใหม่ โดยการประยุกต์ใช้กับทีมปรับปรุงคุณภาพ


          ผลการศึกษาดังกล่าวพบว่าการประยุกต์ใช้กลยุทธ์ซิกซ์ ซิกมา ในโรงงานกรณีศึกษาสามารถเพิ่มอัตราการผลิตผลดีของทั้งกระบวนการจาก 98.48% เป็น 98.77% หรือคิดเ)นมูลค่าที่ลดต้นทุนการทิ้งของเสียได้เท่ากับ 1,612,358 บาทต่อเดือน ซึ่งเท่ากับ 19,348,296 บาทต่อปี และอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ประสบความสำเร็จ คือ บุคลากรสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจโดยหลักสถิติ ตามขั้นตอนของกลยุทธ์ซิกซ์ ซิกมา ทำให้บริษัทสามารถยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และกระบวนการทำให้สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัยให้กับองค์กรได้อย่างยั่งยืน

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

เฟร็ด อาร์ เดวิด (สาโรจน์ โอพิทักษ์ชีวิน แปลและเรียบเรียง) การบริหารเชิงกลยุทธ์ Concept and Cases (7th), พิมพ์ครั้งที่ 1., กรุงเทพฯ เพียร์สัน เอ็ดดูเคชั่น อินโดไชน่า จำกัด, 2550.

ตรีทศ เหล่าศิริหงส์ทอง, กลยุทธ์การผลิต/ปฏิบัติการเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน, พิมพ์ครั้งที่ 1., กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2552.

ณัฏฐพันธ์ เขจรนันทน์, การจัดการเชิงกลยุทธ์ (ฉบับปรับปรุง), พิมพ์ครั้งที่ 1., กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2552.

มหาวิทยาลัยโมโตโรลา, (2008). What is Six Sigma?. สืบค้นเมื่อ 4 เมษายน 2553, จาก https://www.motorola.com/Business/US-/Motorola Forest W., Implementing Six Sigma Smarter Solutions Using Statistic Methods, 1st Ed., New York: John Wiley & Sons, 2008.

Jay Heizer, Barry Render., Operations Management. 8th., New Jersey: Pearson & Prentice Hall, pp. 199-200, 2008.

Edward Abramowitz, Six Sigma for Growth. 1st Ed., Singapore: John Wiley & Sons (Asia) Pte Ltd., 2005.

Juan A. Magana-Campos and Elaine Aspinwall, “Comparative study of Western and Japanese improvement systems,” Total Quality Management., vol. 14, No. 4., 2003.

สุพานี สฤษฎ์วานิช, การบริหารเชิงกลยุทธ์: แนวคิดและทฤษฎี, พิมพ์ครั้งที่ 3., กรุงเทพณ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2553.

Fang Zhang, Shipments and revenue in Q4 will post a second consecutive period of gains. Retrived December 10, 2010, from https://www.isuppli.com/Memory-and-Storage/News/Pages/Hard-Drives-Have-a-Happy-Holiday.aspx

S. H. Park, Six Sigma for Quality and Productivity Promotion, 32th ed, Japan: The Asian Productivity Organization, 2003.

Lou Johnson, Cate Twohill. The Three Key of Six Sigma Successful. Retrieved April 04, 2010, from https://www.minitab.com